"คำนูณ" เผย ร่างพ.ร.บ.ตำรวจฯ ใกล้เสร็จแล้ว "มีชัย" ทำร่างกม.ฉบับ 2 ต่อ เพื่อปรับประสิทธิภาพงานตำรวจ วางหลักการให้แจ้งความนอกพื้นที่เกิดเหตุได้ เล็งเคาะให้ ผู้เชี่ยวชาญจากอาชีพอื่น เป็นฝ่ายสนับสนุนการสอบสวน, เก็บพยานฝั่งผู้ถูกกล่าวหารวมในสำนวน
นายคำนูณ สิทธิสมาน กรรมการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตำรวจแห่งชาติ ในคณะกรรมการกฤษฎีกาชุดพิเศษ ที่มีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธาน เปิดเผยว่า คณะกรรมการฯ พิจารณาร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ แล้วเสร็จในวาระแรก แต่ยังเหลือบทบัญญัติส่วนบทเฉพาะกาลที่รอการพิจารณาเพราะต้องรอข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาในขั้นตอนสุดท้าย อย่างไรก็ตามทางคณะกรรมการฯ พิจารณาถึงการยกระดับการทำงานของตำรวจส่วนการพิจารณาความอาญา และเพิ่มความสะดวกให้กับประชาชน จึงมีมติยกร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการสอบสวนคดีอาญา พ.ศ.... ฉบับใหม่ เพิ่มเติมจากประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เบื้องต้นรางพ.ร.บ.ดังกล่าววางหลักการสำคัญไว้บ้างแล้ว
นายคำนูณ กล่าวด้วยว่า สำหรับหลักการสำคัญของร่างพ.ร.บ.การสอบสวนคดีอาญา พ.ศ.... จะเน้นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน อาทิ การแจ้งความร้องทุกข์ กล่าวโทษ คดีอาญาสามารถแจ้งความที่พนักงานสอบสวนได้ทุกสถานี โดยไม่จำเป็นต้องเป็นสถานีท้องที่เกิดเหตุ ซึ่งรวมถึงกรณีเกิดการกระความผิดคดีอาญาบนยานพาหนะขนส่งสาธารณะ ผู้เสียหายหรือเจ้าหน้าที่รัฐที่ควบคุมยานพาหนะขนส่ง หรือเจ้าของยานพาหนะ มีสิทธิร้องทุกข์ กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนได้ทุกสถานี ไม่ว่าเหตุเกิดในท้องที่ใด ขณะที่ขั้นตอนการทำงานกำหนดให้พนักงานสอบสวนที่รับเรื่องเร่งสอบสวนในเบื้องต้นก่อนส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานสอบสวนที่มีเขตอำนาจ
นายคำนูณ กล่าวด้วยว่า กรณีเอกสารประจำตัวหาย ไม่จำเป็นต้องแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวัน และสามารถติดต่อหน่วยงานที่ทำเอกสารดังกล่าวเพื่อทำบัตรใหม่ได้ ขณะที่ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงระบบงานของตำรวจ กำหนดให้ตำรวจสายงานป้องกันและปราบปราม สายวิชาชีพเฉพาะที่ไม่เกี่ยวกับการพิสูจน์หลักฐานมีหน้าที่และอำนาจสนับสนุนพนักงานสอบสวนในการสืบสวนสอบสวน ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎก.ตร. ส่วนตำรวจในสายงานป้องกันและปราบปรามมีหน้าที่และอำนาจเพิ่มเติมส่วนการสืบสวนตามที่พนักงานสอบสวนร้องขอ
นายคำนูณ กล่าวต่อว่า กรรมการฯ พิจารณาวางหลักการอื่นๆ เพิ่มเติมแต่ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป ได้แก่ ให้การสอบสวนอาจทำเป็นองค์คณะ, คดีที่ต้องใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ อาจตั้งเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษนั้น ๆ เป็นผูช่วยพนักงานสอบสวน หรือที่ปรึกษาพนักงานสอบสวน, กรณีรวบรวมพยานหลักฐานของคดี กำหนดให้พนักงาน เก็บหลักฐาน และพยานของของผู้ต้องหาไว้ในสำนวนคดีด้วย จากเดิมที่เก็บเฉพาะผู้กล่าวหา