‘คิดส์อัพ’ แอพฯรับลูกไม่ต้องรอ

‘คิดส์อัพ’ แอพฯรับลูกไม่ต้องรอ

“คิดส์อัพ” (Kids Up) แอพพลิเคชั่นแก้ปัญหาจราจรในและหน้าโรงเรียน ช่วยให้ผู้ปกครองไปรับนักเรียนโดยไม่มีการจอดรถรอ ตั้งเป้าปีแรกใช้งานในโรงเรียน 100 แห่งย่านรถติดในกรุงเทพฯ อนาคตมุ่งขยายสู่หัวเมืองและต่างประเทศที่เผชิญปัญหาการจราจรเหมือนไทย

“จุดแข็งของโซลูชั่นนี้คือ ความสะดวกสบายและเป็นระเบียบเรียบร้อยในการรับลูกกลับบ้านอย่างปลอดภัย ขณะเดียวกันก็ช่วยลดปัญหาการจราจรหน้าโรงเรียน ซึ่งได้ทดสอบใช้งานกับโรงเรียน 2 แห่งในไทยและสิงคโปร์ที่มีจำนวนนักเรียน 1,000 คนขึ้นไปใน พบว่าผลการตอบรับดีมากจากผู้ปกครอง” คงพันธ์ ฉมารัตน์ ซีอีโอบริษัท อาร์ติคูลัส จำกัด ผู้พัฒนาแอพฯ กล่าว

ตอบโจทย์-ตรงใจผู้ปกครอง

คงพันธ์ วิศวกรการสื่อสารและคุณพ่อที่ต้องดูแลลูกชายวัย 12 ปี เผชิญปัญหาเช่นเดียวกับผู้ปกครองทั่วไปจากการขับรถไปรอรับลูกหลังเลิกเรียนทุกวัน เนื่องจากความกังวล 2 เรื่องหลักคืออุบัติเหตุและการลักพาตัวทำให้ต้องไปรับ-ส่งลูกที่โรงเรียนด้วยตัวเองทุกวัน ซึ่งพบว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะนัดให้มาเจอที่รถโดยไม่ต้องรอนานหรือสื่อสารให้มาหาที่รถได้ถูกคัน

ส่งผลให้พื้นที่หน้าโรงเรียนหลายแห่งเกิดปัญหาการจราจรติดขัด จากการที่ผู้ปกครองจอดรถรอรับลูก จากสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นได้จุดประกายให้พัฒนาโซลูชั่นมาช่วยแก้ปัญหาในรูปแบบแอพพลิเคชั่น “คิดส์อัพ” โดยจะเชื่อมการทำงานทั้ง 3 ส่วนคือ โรงเรียน ผู้ปกครองและเด็ก

แอพพลิเคชั่นหลักคือ ผู้ปกครอง ที่จะเป็นแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ มีฟังก์ชันที่สามารถกด Calls my Kid เมื่อกำลังจะไปรับนักเรียน ระบบจะเชื่อมกับกูเกิ้ลแพลตฟอร์มในการคำนวณระยะเวลาที่จะถึงหน้าโรงเรียน ในขณะเดียวกันก็จะเชื่อมไปยังโรงเรียนซึ่งใช้เพียงคอมพิวเตอร์พีซี 1 เครื่องต่อเข้ากับโทรทัศน์ และเชื่อมฐานข้อมูลเด็กกับผู้ปกครองที่จะมารับ เพื่อให้ทางโรงเรียนสามารถตามตัวเด็กมาทันเวลาที่ผู้ปกครองมารับ ขณะที่เด็กที่มีโทรศัพท์มือถือก็จะมีแอพพลิเคชั่นสำหรับเด็ก ซึ่งจะส่งสัญญาณเตือนเมื่อผู้ปกครองจะมารับ

ทั้งนี้ “คิดส์อัพ” เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่เข้าร่วม “โครงการบ่มเพาะธุรกิจเทคโนโลยี รุ่นที่ 16 (SUCCESS 2018)” โดยศูนย์บ่มเพาะธุรกิจเทคโนโลยี สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เป็นการบ่มเพาะธุรกิจพร้อมมอบสิทธิประโยชน์จากโครงการและหน่วยงานพันธมิตร สำหรับผู้บริหารกิจการ ผู้ประกอบกิจการซอฟต์แวร์และไอทีทุกประเภท เพื่อให้มีโอกาสนำผลงานสู่เชิงพาณิชย์ พร้อมประสานแหล่งทุน และวางแผนธุรกิจที่นำไปใช้ได้จริง ทำให้เกิดการพัฒนาธุรกิจ ก่อเกิดรายได้ และนำไปสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจที่เข้มแข็งอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน

พร้อมทั้งยังนำผู้บริหารบริษัทขนาดใหญ่มาเป็นผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาผ่านประสบการณ์บริหารธุรกิจที่หลากหลาย และงบสนับสนุนกิจกรรมพิเศษ เช่น การเจรจาธุรกิจกับต่างประเทศ มากกว่า 6 แสนบาทให้ผู้ประกอบการคิดกิจกรรมที่ต้องการทำร่วมกันเป็นกลุ่ม

ปี 62 เตรียมลุยตลาดไทย-เทศ

อัมภาพัตร ฉมารัตน์ ผู้ร่วมก่อตั้งและดูแลด้านการตลาด กล่าวว่า คิดส์อัพจะเปิดให้ใช้ฟรีสำหรับผู้ปกครอง 2 คนและฟังก์ชั่นมาตรฐานของระบบ ส่วนรายได้ของแอพฯ จะมาจากบริการเสริมพิเศษ เช่น การเพิ่มผู้ที่จะมารับเด็กในระบบและค่าอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ซึ่งกำลังพัฒนา

“เรากำลังพัฒนาอุปกรณ์เสริมที่จะช่วยแก้ปัญหาการลืมสิ่งของของเด็ก เช่น ชุดพละ อุปกรณ์กีฬา เครื่องดนตรีและสมุดการบ้าน จึงจะพัฒนาให้เป็นอุปกรณ์ชิ้นเล็กเชื่อมกับระบบคิดส์อัพ ที่สามารถตั้งเตือนในวันที่ต้องการใช้” อัมภาพัตร กล่าว

สตาร์ทอัพรายนี้เริ่มเดินหน้าทำการตลาดแล้ว ในช่วงปีแรกมุ่งเปิดตัวกับโรงเรียนในเขตเมืองที่รถติด ซึ่งให้ความสนใจโดยเรียกเข้าไปพูดคุย คาดว่าภายในปีนี้จะมีการใช้ใน 100 โรงเรียนในเขตกรุงเทพฯ และจะสร้างรายได้กว่า 18 ล้านบาท เนื่องจากเป็นระบบที่ตอบเพนพ้อยท์ของทั้งผู้ปกครองและโรงเรียนได้ โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมพิเศษ นอกจากการอบรมด้านการใช้งานให้กับครูและผู้ปกครอง

อนาคตสำหรับคิดส์อัพ คงพันธ์เตรียมขยายไปยังจังหวัดที่เป็นหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต นครราชสีมา ขณะเดียวกันก็มองตลาดต่างประเทศจากการไปออกบูธที่สิงคโปร์ พบว่า อีกหลายประเทศล้วนประสบปัญหาเดียวกัน ดังนั้น ในปี 2562 วางแผนที่จะเดินหน้าทำตลาดในอินโดนีเชีย ที่เป็นตลาดใหญ่ ประชากรจำนวนมาก ตามด้วยมาเลเซีย ฟิลิปปินส์และเวียดนาม