'หมอภาคย์'ยก'โค้ชเอก'ฮีโร่ตัวจริง ชี้12หมูป่ามีวินัยมาก

'หมอภาคย์'ยก'โค้ชเอก'ฮีโร่ตัวจริง ชี้12หมูป่ามีวินัยมาก

ทหารจัดแถวรับ "หมอภาคย์" กลับกองพัน เจ้าตัวยก "โค้ชเอก" เป็นฮีโร่ตัวจริง ทำให้เด็กๆ ทีมหมูป่าอะคาเดมี มีความหวังและกำลังใจตลอดช่วงที่ติดอยู่ในถ้ำ จนถึงวันที่ช่วยออกจากถ้ำได้สำเร็จ

วันนี้ (17 ก.ค. 61) เวลา 08.30 น. ที่กองพันเสนารักษ์ที่ 3 ค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา กองพลทหารเสนารักษ์ที่ 3 กว่า 50 นาย ได้มีการจัดแถวเพื่อต้อนรับการเดินทางกลับหน่วย ของ พ.ท.นพ.ภาคย์ โลหารชุน หรือหมอภาคย์ ผู้บังคับการกองพันเสนารักษ์ที่ 3 ภายหลังจากที่เดินทางไปปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือเยาวชนทีมหมูป่าอะคาเดมี่ ที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ซึ่งหมอภาคย์ถือว่าเป็นกำลังสำคัญในการเข้าไปช่วยปฐมพยาบาล และประเมินสุขภาพของทีมหมูป่าทั้ง 13 คน จนสามารถช่วยทั้งหมดออกมาจากถ้ำได้สำเร็จ กลายเป็นหนึ่งในฮีโร่ที่คนไทยทั้งประเทศยกย่องให้เป็น “หมอที่แข็งแรงที่สุดในปฐพี”

ทันทีที่หมอภาคย์เดินทางมาถึง ก็ได้เข้าไปไหว้ศาลปู่ประยุทธ-ศาลปู่ดำ ที่ตั้งอยู่หน้าหน่วย หลังจากนั้นก็ได้มีพิธีตั้งแถวรายงานจำนวนกำลังพล และการปฏิบัติงานในหน่วยกองพันเสนารักษ์ที่ 3 ระหว่างที่หมอภาคย์ไม่อยู่ พร้อมกับได้พร้อมใจกันส่งเสียง “ฮูยาห์ๆ” ซึ่งเป็นคำประกาศชัยชนะของหน่วยซีล ก่อนที่ตัวแทนกำลังพลกองพันเสนารักษ์ที่ 3 จะนำช่อดอกไม้มามอบให้ เพื่อเป็นการต้อนรับกลับเข้าสู่หน่วยอีกครั้ง

พ.ท.นพ.ภาคย์ โลหารชุน หรือหมอภาคย์ ผู้บังคับการกองพันเสนารักษ์ที่ 3 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ช่วยเหลือทีมหมูป่าอะคาเดมี่ครั้งนี้ ถือว่าเป็นการกู้ภัยในถ้ำเป็นครั้งแรกในโลก ที่มีหลายหน่วยงานจากทั่วโลกเดินทางมาช่วยเหลือ ซึ่งจะเป็นประสบการณ์ที่สำคัญให้กับการปฏิบัติงานกู้ภัยลักษณะนี้ให้กับคนทั้งโลก ทั้งนี้จากการได้อยู่กับเด็กๆ ในถ้ำหลายวัน ตนก็สัมผัสได้ว่าเด็กทั้ง 12 คน รวมทั้งโค้ชเอก เป็นคนที่มีจิตใจดีงาม ใส่ซื่อ ไร้เดียงสา ตามประสาเด็กๆ และที่สำคัญทุกคนมีวินัยมาก สังเกตได้จากตอนที่กินอาหารเสร็จแล้ว ทุกคนจะนำเศษอาหาร เศษขยะ ไปทิ้งในถุงดำเดียวกันทั้งหมด

จากการสอบถามเด็กๆ บอกว่า ตอนเข้าไปเที่ยวในถ้ำนั้นทุกคนไปเที่ยวในเชิงอนุรักษ์ ไม่มีการเก็บหิน หรือของที่อยู่ในธรรมชาติให้เกิดความเสียหายเลย และตั้งใจว่าจะเข้าไปทำกิจกรรมเพียงแค่ 1 ชั่วโมงก็จะกลับออกมา และที่สำคัญทางโค้ชเอกเองก็เป็นเยาวชนที่ยอดเยี่ยมมาก แม้อายุเพียงแค่ 24-25 ปีเท่านั้น แต่ก็สามารถเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของเด็กๆ ทั้ง 12 คนได้เป็นอย่างดีเยี่ยม เพราะได้อบรมสั่งสอนเด็กๆ ทุกคนหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการอยู่อย่างไรในช่วงที่ขาดอาหาร สอนให้รู้จักการเสียสละโดยที่ไม่ต้องพูด เพราะตนสังเกตเห็นแอบเอาอาหารที่เป็นส่วนของตัวเอง ไปให้เด็กๆ ได้กินอิ่มก่อน รวมทั้งสอนให้ทุกคนมีความหวังเสมอ และมีระเบียบวินัยด้วย แม้ว่าจะอยู่ในถ้ำ โดยสังเกตจากการที่เด็กๆ จะช่วยกันนำก้อนหินไปขุดโพรงลึกถึง 5-6 เมตรทุกเช้า แม้จะไม่ได้กินอาหาร

นอกจากนี้เด็กๆ ทุกคนจะเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี โดยจะพูดคุยแต่เรื่องที่สร้างสรรค์ เช่น ออกไปแล้วอยากจะไปเที่ยวที่ไหน อยากจะกินอาหารอะไรกันบ้าง ซึ่งถือว่าสิ่งนี้สำคัญมากต่อสุขภาพกายและใจ พวกเขามีสิ่งที่วิตกอยู่เรื่องเดียว คือกลัวว่าออกไปแล้ว จะทำการบ้านที่ค้างอยู่ส่งครูไม่ทันเพื่อน ดังนั้นทั้งหมดต้องยกความดีให้กับโค้ชเอก ที่สามารถสั่งสอนเด็กๆ ให้มีสติ มีความหวัง และมีระเบียบวินัย จนสามารถอยู่รอดได้ถึงวันที่ออกจากถ้ำครั้งนี้

ส่วนกรณีที่ทางจังหวัดนครราชสีมา จะจัดพิธีต้อนรับนั้น ขณะนี้ตนได้รับการติดต่อจากนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาแล้ว โดยเบื้องต้นทราบว่าจะมีการจัดพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2561 นี้ ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี