บาทเปิดตลาดเช้านี้แข็งค่าที่ 33.30 บาทต่อดอลลาร์

บาทเปิดตลาดเช้านี้แข็งค่าที่ 33.30 บาทต่อดอลลาร์

ตลาดคาดแนวโน้มเฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ย ดอลลาร์อ่อนค่าและบาทกลับมาแข็งค่าได้ระยะสั้น

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 33.30บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากปิดตลาดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 33.34 บาทต่อดอลลาร์

ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาภาพรวมเศรษฐกิจและการเมืองโลกยังไม่มีความเปลี่ยนแปลงมากนัก ตลาดมีท่าทีระมัดระวังตัว แม้ดัชนีตลาดหุ้นสำคัญในสหรัฐปรับตัวบวกขึ้นทำระดับสูงสุดใหม่ในรอบห้าเดือนทั้งหมดจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งและราคาน้ำมันที่ฟื้นตัว แต่บอนด์ยิลด์สหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลงเล็กน้อยไปที่ระดับ 2.83% (-3bps) ชี้ว่านักลงทุนยังคงมีความกังวลกับความเสี่ยงการเมือง

ฝั่งตลาดเงิน ปอนด์อังกฤษคือสกุลเงินที่มีการเคลื่อนไหวมากที่สุด ล่าสุดขยับขึ้นมาที่ระดับ 1.32 ปอนด์ต่อดอลลาร์ หลังจากที่ปรับตัวลงแตะระดับ 1.30 ปอนด์ต่อดอลลาร์เนื่องจากความกังวลเรื่อง Brexit ในช่วงสัปดาห์ก่อน

ทางด้านค่าเงินบาท เรามองว่าความเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์จะเป็นประเด็นหลักเนื่องจากมีการเข้าให้ถ้อยแถลงของประธานเฟดกับรัฐสภาสหรัฐ เชื่อว่าความเสี่ยงในการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้นมากที่สุดในรอบหลายปี อาจทำให้สภาสหรัฐตั้งคำถามกับแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด จึงมีความเสี่ยงที่นายโพเวลล์อาจเอนเอียงไปในทิศทางชะลอการขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งจะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าและเงินบาทกลับมาแข็งค่าได้ในระยะสั้น มองกรอบเงินบาทระหว่างวันที่ระดับ 33.00-33.50 บาทต่อดอลลาร์

สำหรับในสัปดาห์นี้มีหลายเรื่องที่ต้องติดตาม ไม่ว่าจะเป็นการพบกันระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์และวลาดิเมียร์ ปูติน ที่เฮลซิงกิในวันจันทร์ การเข้าให้ถ้อยแถลง (Testimony) ต่อรัฐสภาสหรัฐของนายเจอโรมโพเวลล์ในวันอังคาร ตัวเลขค้าปลีกของฝั่งสหรัฐที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นใกล้เคียงระดับ 0.8% ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และตัวเลขจีดีพีไตรมาสสองของจีนที่คาดว่าจะขยายตัว 6.8%

เรามองว่าภาพรวมทั้งหมดไม่ได้เป็นลบกับตลาดทุน นอกจากนี้ในระยะสั้นรายได้ของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐน่าจะยังดึงให้ตลาดสามารถกลับสู่โหมดเปิดรับความเสี่ยง (Risk On) ได้ต่ออีกด้วย