'ประวิตร' สั่งกวาดล้างยาเสพติดเข้มข้น

'ประวิตร' สั่งกวาดล้างยาเสพติดเข้มข้น

"พล.อ.ประวิตร" สั่งกวาดล้างยาเสพติดเข้มข้น หลังพบยาบ้าทะลักเข้าไทยช่วงบอลโลก ยึดยาบ้าได้เกือบ 50 ล้านเม็ด

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้กล่าวชื่นชมและเป็นกำลังใจให้ฝ่ายความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครอง ที่กำลังร่วมกันเปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติดทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ทั้งการสกัดกั้นตามพื้นที่ชายแดน การตรวจสกัดจับตามเส้นทางลำเลียง รวมทั้งการสืบค้นทำลายแหล่งพักและแหล่งกระจายยาเสพติดเข้าไปในชุมชน โดยมีผลปฏิบัติการในเดือน มิ.ย.61 สามารถยึดยาบ้าได้ถึง 43 ล้านเม็ด ยาไอซ์เกือบ 600 กก.รวมทั้งเฮโรอีน กัญชา และพืชกระท่อมจำนวนมาก มูลค่ารวมหลายพันล้าน จับกุมผู้กระทำผิดได้กว่า 3 หมื่นคน


ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำว่า การแก้ปัญหายาเสพติดถือเป็นภารกิจสำคัญที่ทุกรัฐบาล ต้องดำรงความเข้มแข็งทางนโยบายและคงเข้มมาตรการบริหารจริงจังต่อเนื่องกันไป พร้อมทั้งจำเป็นต้องสร้างการตระหนักรู้และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนของสังคมควบคู่กันไป โดยกำชับทุกหน่วยงานของฝ่ายความมั่นคงให้ความสำคัญร่วมขับเคลื่อนแก้ปัญหายาเสพติดทั้งระบบต่อเนื่องกันไป และให้ประสานกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินและติดตามสถานการณ์ วางแผนเชิงรุกเปิดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้ครอบคลุมทุกมิติให้มากขึ้น รวมทั้งต้องสืบต่อขยายผลเชื่อมโยงข้อมูลให้ถึงบุคคลที่อยู่เบื้องหลังกระบวนการบ่อนทำลายชาติให้ได้ และให้ใช้มาตรการทางกฎหมายเข้มถึงที่สุดให้มีผลทั้งอาญาและยึดทรัพย์ในทุกราย

โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดยาเสพติดภาพรวมของประเทศยังเป็นที่กังวลร่วมกัน โดยประเทศไทยยังเป็นถูกใช้เป็นเส้นทางลำเลียงและจุดพักยาสำคัญเพื่อส่งออกไปยังภูมิภาค ขณะเดียวกันมีการแพร่ระบาดใช้ยาเสพติดรูปแบบต่างๆในกลุ่มเยาวชนมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกมียาเสพติดจำนวนมาก ทั้งยาบ้าและยาไอซ์จากประเทศเพื่อนบ้าน ทะลักเข้าไทยทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นยาบ้าเกือบ 50 ล้านเม็ด โดยเจ้าหน้าที่ทำงานร่วมกันยึดได้ครั้งละเกือบ 10 ล้านเม็ด ขณะเดียวกันข้อมูลจำนวนมากที่ได้จากภาคประชาชนทยอยแจ้งในแต่ละพื้นที่ เจ้าหน้าที่กำลังติดตามกวาดล้างจับกุม เพื่อยับยั้งกระบวนการบ่อนทำลายทรัพยากรบุคคลของประเทศให้ได้