สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์ วันที่ 9-13 กรกฎาคม 2561

สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์ วันที่ 9-13 กรกฎาคม 2561

“เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 9 เดือน ขณะที่ ดัชนีตลาดหุ้นไทยพุ่งขึ้นจากสัปดาห์ก่อน”

สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท

-  เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 9 เดือน เงินบาททยอยอ่อนค่าลง และแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 9 เดือนที่ 33.36 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยการอ่อนค่าของเงินบาท ยังสอดคล้องกับเงินหยวน และสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ท่ามกลางความกังวลต่อประเด็นข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ มีปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ (อาทิ ดัชนีราคาผู้ผลิต ดัชนีราคาผู้บริโภค ที่ขยับขึ้น และการปรับลดลงของจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์) ซึ่งสนับสนุนแนวโน้มการทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

-  ในวันศุกร์ (13 ก.ค.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.35 เทียบกับ 33.17 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (6 ก.ค.)   

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (16-20 ก.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.10-33.60 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยจุดสนใจของตลาดน่าจะอยู่ที่ความคืบหน้าของเรื่องพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน สถานการณ์ค่าเงินหยวน และข้อมูลจีดีพีไตรมาส 2/2561 ของจีน นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามถ้อยแถลงรายงานนโยบายการเงินของประธานเฟดต่อสภาคองเกรสด้วยเช่นกัน ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญในระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ผลสำรวจกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย และเฟดสาขานิวยอร์กเดือนก.ค. ยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน และการขออนุญาตก่อสร้างเดือน มิ.ย. และรายงาน Beige Book ของเฟด

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย

ดัชนีตลาดหุ้นไทยพุ่งขึ้นจากสัปดาห์ก่อน โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับที่ 1,643.52 จุด ซึ่งเพิ่มขึ้น 1.78% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่ มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันปรับลดลง 21.49% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 44,962.24 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ปิดที่ 429.41 จุด เพิ่มขึ้น 2.46% จากสัปดาห์ก่อน

- ดัชนีตลาดหุ้นไทยพุ่งขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ จากแรงหนุนในหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ประกอบกับมีแรงซื้อของกลุ่มนักลงทุนสถาบัน ก่อนที่จะย่อตัวลงในช่วงสั้นๆ ท่ามกลางความกังวลหลังสหรัฐฯ เตรียมออกมาตรการกีดกันทางการค้ากับจีนเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี ดัชนี SET ยังสามารถทยอยฟื้นตัวกลับมาได้ในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ จากแรงซื้อก่อนการประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 2/2561  

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (16-20 ก.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,635 และ 1,620 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,650 และ 1,675 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ ประเด็นต่อเนื่องของสถานการณ์การตอบโต้ทางการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะระหว่างสหรัฐฯ และจีน ตลอดจนการทยอยประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 2/2561 ของบริษัทจดทะเบียนไทย ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อื่นๆ ได้แก่ ถ้อยแถลงของนาย เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านเดือนมิ.ย. และดัชนีการผลิตของเฟดฟิลาเดลเฟียเดือนก.ค. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ จีดีพีของจีน ดุลการค้าและดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมิ.ย. ของประเทศญี่ปุ่น