ฝากขัง หนุ่มปลอมบัตรประชาชนนายกฯ ค้านประกัน-กลัวหนี

ฝากขัง หนุ่มปลอมบัตรประชาชนนายกฯ ค้านประกัน-กลัวหนี

ปอท. คุม "หนุ่มเมืองชล" ฝากขังศาลอาญาครั้งแรกหลังตามจับได้ร้านโทรศัพท์เมืองชลพร้อมของกลาง 5 รายการ ค้านประกัน-กลัวหนี

เมื่อวันที่ 13 กรกฏาคม 2561 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี่ (ปอท.) ได้ควบคุมตัว นายพีระเมศร์ อายุ 31 ปี ชาว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีปลอมบัตรประชาชนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไปลงทะเบียนซิมการ์ด มายื่นฝากขังครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 13 – 24 ก.ค.นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จ ต้องรอสอบปากคำพยานอีก 4 ปาก และรอผลตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร

โดยพนักงานสอบสวน ได้ขอคัดค้านการให้ประกันตัวผู้ต้องหาด้วย เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง หากปล่อยชั่วคราวเกรงว่าจะหลบหนีซึ่งคำร้องฝากขัง ระบุพฤติการณ์สรุปว่า ก่อนเกิดเหตุบริษัท เรียลมูฟ จำกัด ได้แจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับคนร้ายซึ่งไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด ได้กระทำความผิดในการลงทะเบียนซิมแบบเติมเงิน จำนวน 23 หมายเลข โดยนำข้อมูลบัตรประชาชนปลอม ที่ตัดต่อภาพของ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" มาใส่ในรูปบัตรประชาชน และปรากฏข้อมูลอื่น ๆ ที่เป็นเท็จ เช่นเลขบัตรประชาชน ซึ่งการลงทะเบียนดังกล่าวเกิดจากการใช้โค้ดของเพื่อนคู่ค้าของบริษัท (DEALER) จำนวน 9 ราย ที่ใช้ในการลงทะเบียนในระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัท ทำให้เกิดความเสียหาย และจากการสืบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ก็ทราบตัวผู้กระทำผิด แล้วจึงขอศาลอาญาออกหมายจับที่ 1382/2561 ลงวันที่ 22 มิ.ย.61

ต่อมาเมื่อวันที่ 11 ก.ค.61 เวลาประมาณ 16.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอท.และ บก.ป.ร่วมกันจับกุมตัว "นายพีระเมศร์" ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล ได้ที่ร้านชานโมบาย จ.ชลบุรี พร้อมของกลาง 5 รายการ คือ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อโมโตโรล่า สีดำ พร้อมซิมการ์ดหมายเลขโทรศัพท์ดังกล่าว และซิมการ์ดเครือข่ายทรูมูฟ รวมจำนวน 29 ซิม กับอุปกรณ์อื่น ๆ

โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา เข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน , ทำให้เสียหายทำลายแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยไม่ชอบ และโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนอันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทฯ , ทำเอกสารปลอมขึ้นทั้งฉบับหรือส่วนหนึ่งส่วนใด เติมหรือตัดข้อความ หรือแก้ไขด้วยประการใดในเอกสารที่แท้จริง หรือประทับตราปลอม หรือลงลายมือชื่อปลอมในเอกสาร โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนและใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการกระทำความผิดในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน พร้อมส่งตัวผู้ต้องหาให้พนักงานสอบสวน บก.ปอท.ดำเนินคดีตามกฎหมาย ชั้นสอบสวน นายพีระเมศร์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพข้อหาใช้เอกสารปลอมฯ และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 แต่ให้การปฏิเสธข้อหาปลอมเอกสาร

ทั้งนี้ ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้