มธ.เปิดตัว 'โรงเรียนผู้สูงอายุ' อัพเกรดชีวิต

มธ.เปิดตัว 'โรงเรียนผู้สูงอายุ' อัพเกรดชีวิต

มธ.เปิดตัว “โรงเรียนผู้สูงอายุ” มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุทั้งด้านร่างกาย จิตใจและสังคม ดึงผู้โดยมีผู้เชี่ยวชาญของมหาวิทยาลัยให้ความรู้

คาดส.ค.นี้เปิดตัวคอร์ส “รีเทรนนิ่ง” ดึงคนทำงานและวัยเกษียณลงทะเบียนเรียนในสาขาที่สนใจ เรียนออนไลน์ ไม่จำกัดวุฒิ


นายศุภชัย ศรีสุชาติ ผู้อำนวยการสถาบันเสริมศึกษาและทรัพยากรมนุษย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) แถลงข่าวเปิดตัวโรงเรียนผู้สูงอายุและคอร์ส “รีเทรนนิ่ง” หลักสูตรเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุวัยเกษียณ ว่า ประเทศไทยมีการเพิ่มประชากรผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นรวดเร็ว ปัจจุบันมีจำนวนเกือบ 10 ล้านราย หรือคิดเป็น 16% ของประชากรในประเทศ ขณะที่การจัดการคุณภาพชีวิตยังขาดความพร้อม ดังนั้น เพื่อเตรียมพร้อมและรองรับสังคมผู้สูงวัย สถาบันเสริมศึกษาและทรัพยากรมนุษย์ มธ. จึงได้จัดตั้ง “โรงเรียนผู้สูงอายุ” ขึ้นเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุรอบด้าน โดยครอบคลุมความรู้ใน 3 มิติ คือ 1. มิติความรู้ที่ผู้สูงอายุต้องรู้ โดยเน้นความรู้ด้านสุขภาพ เพื่อการส่งเสริมสุขภาพที่ดีของผู้สูงอายุอย่างยั่งยืน โดยมีรายวิชา ด้านโภชนาการที่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุ การดูแลสุขภาพฟัน การฝึกกายภาพบำบัดในทุกเช้า


2.มิติความรู้ที่ผู้สูงอายุควรรู้ โดยเน้นการให้ความรู้เกี่ยวกับสภาพสังคมในปัจจุบัน เศรษฐกิจและเทคโนโลยี รวมทั้งแนวทางการดำเนินชีวิตในวัยชรา ผ่านรายวิชา เทคโนโลยีเพื่อการสื่อสารสำหรับผู้สูงอายุ กฎหมาย สิทธิและสวัสดิการสำหรับผู้สูงอายุ สัจธรรม ชีวิตและความตาย และศาสตร์พระราชา “ชีวิตที่เป็นสุข” และ3.มิติความรู้ที่ผู้สูงอายุอยากรู้ โดยความรู้ในมิตินี้ ผู้ร่วมโครงการจะเป็นกำหนดเอง เพื่อให้ตรงกับความสนใจของตนเองมากที่สุด โดยเน้นไปในแนวทางการส่งเสริมอาชีพในด้าน กิจกรรมสอนทำอาหารเพื่อสุขภาพหรือจะเป็นกิจกรรมการเต้นลีลาศเพื่อสุขภาพ รวมไปถึงการทัศนศึกษาภายนอก เช่น การศึกษาดูงานโครงการบ้านปลอดภัยสำหรับผู้สูงเรียน และกิจกรรมจิตอาสา เป็นต้น อย่างไรก็ตาม หลักสูตรการสอนนั้นเกิดจากการสอบถามความต้องการของผู้สูงอายุ และการหารือร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เข้ามาร่วมดำเนินการตรวจสอบและให้คำแนะนำด้วย


“ผู้สูงอายุที่จะเข้าเรียนในโรงเรียนสูงอายุ ต้องเป็นไปตามที่ พม.กำหนดคือ อายุ 60 ปีขึ้นไป หลักสูตรจะใช้เวลาเรียน 25 ครั้ง สัปดาห์ละ 2 ครั้งโดยมีอาจารย์ของ มธ.คณะต่างๆที่เกี่ยวข้องมาเป็นผู้ทำการสอน เสียค่าใช้จ่ายคนละ 2,000 บาท ซึ่งตั้งแต่เริ่มประกาศรับสมัครก็มีผู้สนใจมาสมัครจำนวนมากโดยเฉพาะผู้สูงอายุในเมือง ปัจจุบันดำเนินการสอนจำนวน 2 รุ่นรวม 140 คน แบ่งเป็น รุ่นที่ 1 เรียนที่มธ.ศูนย์รังสิต จำนวน 50 คน และรุ่นที่ 2 เรียนที่ มธ.ท่าพระจันทร์ จำนวน 90 คนซึ่งนักศึกษาที่อายุมากที่สุดเวลานี้ คือ 89 ปี ขณะที่ผู้ที่สมัครไม่ทันและสำรองที่นั่งไว้อีกประมาณ 300 คน ซึ่งทั้ง 2 รุ่นจะเรียนจบประมาณเดือนก.ย.-ต.ค.2561 ส่วนในรุ่นที่ 3 และ 4 จากนั้น ทางสถาบันจะดำเนินการประเมินและปรับปรุงรายละเอียดเพิ่มเติมก่อนจะเปิดรับรุ่นที่ 3 และ 4 ในปี 2562”นายศุภชัย กล่าว


ด้าน นายชาลี เจริญลาภนพรัตน์ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กล่าวว่า มธ.ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ของประชาชนทุกวัยและทุกอาชีพ ในทุกเวลา เพราะเล็งเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกปัจจุบัน ความรู้เดิมที่เคยมีอาจไม่เพียงพอต่อการทำงานและการดำรงชีวิต มธ. จึงมีแนวคิดในการเปิดโครงการธรรมศาสตร์ตลาดวิชา (GENEX-ACADEMY) เพื่อเปิดโอกาสให้วัยทำงานและวัยเกษียณสามารถเข้าคอร์สเรียนเพิ่มเสริมทักษะ หรือ รีเทรนนิ่ง (Re-training) เพื่อทบทวนความรู้เดิม รวมทั้งแสวงหาความรู้ใหม่ ตามความต้องการได้อย่างไร้ขีดจำกัด เพื่อเพิ่มพูนความรู้ให้เท่าทันปัจจุบันและไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาตนเอง
ทั้งนี้ โดยหลักสูตรดังกล่าวจะเป็นหลักสูตรที่มีความต้องการของภาคแรงงาน เพื่อรองรับยุทธศาสตร์ชาติอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนมีแนวคิดให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการเรียนรู้ได้โดยการเรียนแบบออนไลน์ และไม่จำกัดวุฒิและอายุของผู้เรียน อีกทั้งยังสามารถรับประกาศนียบัตร อนุปริญญาหรือปริญญาบัตร ตามข้อกำหนดของแต่ละหลักสูตรอีกด้วย


“คอร์สรีเทรนนิ่งจะเป็นโอกาสที่จะได้ทำตามความฝันในการเรียนรู้ หรือเรียนในสิ่งที่สนใจ อยากจะเรียนในหลักสูตร หรือบางสาขาของมธ.ก็มาลงทะเบียนเป็นศิษย์ของธรรมศาสตร์ ซึ่งรูปแบบการเรียนก็จะมีหลากหลาย เช่น บางวิชาเรียนร่วมกับนักศึกษาปกติ บางวิชาอาจจะเปิดคอร์สระยะสั้น เมื่อเรียนจบก็สะสมไว้ในเครดิตแบงก์ ขณะเดียวกัน ไม่ได้จำกัดเพียงแค่วิชาพื้นฐานเท่านั้น หากสนใจเรียนในวิชาเฉพาะ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ บริหารธุรกิจขั้นสูง ฯลฯ ก็สามารถมาลงคอร์สกับ มธ.ได้ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างแก้ไขระเบียบและจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนส.ค.2561”นายชาลี กล่าว