บวกตามเพื่อนบ้าน

บวกตามเพื่อนบ้าน

SET Index วานนี้ฟื้นตัวผันผวน จากทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศที่เป็นลบสลับบวกโดยยังคงให้น้ำหนักกับสงครามการค้าที่ส่อยืดเยื้อ

ทั้งนี้ กลุ่ม ENERG กดดันมากสุดจากการปรับตัวลงแรงของราคาน้ำมัน ตามมาด้วย BANK และ COMM ขณะที่หนุนโดยกลุ่ม FOOD HELTH และ PROP ทำให้ SET Index ปิดที่ 1,640.93 จุด (+4.30 จุด) Volume 4.7 หมื่นลบ. มาจาก Foreign Net -558.14 ลบ. TFEX Net +2,142 สัญญา ตราสารหนี้ -2,425.26 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย  

+ดาวโจนส์ทะยานขึ้นกว่า 200 จุดโดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มอุตสาหกรรมที่ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง รวมทั้งรายงานข่าวที่ว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนส่งสัญญาณยุติสงครามการค้า ผ่านการเจรจาระดับทวิภาคีรอบใหม่

+ยอดผู้ขอสวัสดิการว่างงานสหรัฐลดลง 18,000 ราย สู่ระดับ 214,000 ราย

+จีน-สหรัฐส่งสัญญาณหันหน้าเจรจาการค้ารอบใหม่ หลัง "ทรัมป์" เก็บภาษีนำเข้าจีนเพิ่ม

+รมว.พาณิชย์เตรียมปรับเป้าส่งออกปีนี้เป็นโต 9% จากเดิม 8%

+สนช.ลงมติคัดเลือก กกต.ได้จำนวน 5 คน จากที่เสนอมาทั้งหมด 7 คน

+กระทรวงพาณิชย์จะพิจารณาปรับเป้าส่งออกปี 61 ใหม่จากเดิม +8% เป็น +9%

-น้ำมันดิบขยับลงหลังลิเบียเริ่มกลับมาส่งออกน้ำมันอีกครั้ง  ขณะที่ IEA เผยว่าการที่โอเปกผลิตน้ำมันเพิ่มเพื่อให้ราคาน้ำมันปรับตัวลง อาจส่งผลให้กำลังการผลิตส่วนเกินในตลาด

-ดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐ (CPI) พุ่งขึ้น 2.9% ในเดือนมิ.ย.เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของเฟดที่ 2%

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 1.96 แสนล้านบาท ค่าเงินบาท 33.21 บาท/US

ตลาดหุ้นไทยวันนี้มีปัจจัยสนับสนุนจากตลาดต่างประเทศที่ดีดขึ้น ความหวังจากสหรัฐและจีนส่งสัญญาณยุติสงครามการค้า โดยมีปัจจัยกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับลง และ Fund Flow ยังคงไหลออก งทุน คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,633-1,661 จุด

กลยุทธ์การลงทุน   เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- KKP ปันผลสูงและเก็งการประการผลประกอบการ

- BANPU ราคาถ่านหินปรับตัวขึ้น 16 วันทำการสู่ 118$/Ton +9%

- CPALL ROBINS HMPRO BEM ครม.คง VAT ที่ 7% อีก 1 ปี

- หุ้น Beta <0.5 Dividend > 5% DIF DRT MC LH GLOW

- หุ้น Beta <1.0 Dividend > 3.8% TCAP SCB KTB SAT

- KCE CPF GFPT กลุ่มส่งออก ค่าเงินบาทอ่อนค่าสู่ 33.21 บาท/US

- ดัชนี BDI ปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 2 วัน +4.9% มาที่ 1,632 จุด (ผลบวกต่อ PSL)

หุ้นแนะนำพิเศษ

CPN Site Visiting (ราคาปิด 73.75 ซื้อ ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 87.43)

  • ศูนย์การค้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีจุดแข็งในการเป็นศูนย์กลาง โดยเซ็นทรัลพลาซ่าอุดรธานีมีพื้นที่ให้เช่าราว 7.1 หมื่นตรม. 1Q61 มี OR 91% มีศูนย์การค้าโรบินสันและโรงแรมเซ็นทาราอุดรธานีที่อยู่ติดกัน เป็นแหล่งจับจ่ายใช้สอยของคนไทยและลาว ส่วนเซ็นทรัลพลาซ่าขอนแก่น พื้นที่ให้เช่าราว 4.73 หมื่นตรม. 1Q61 มี OR 92% อยู่ใกล้เส้นทางรถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่นที่คาดว่าจะเริ่มเปิดใช้ราวปี 62 ช่วยป้อนประชากรเข้าสู่ขอนแก่นเพิ่มขึ้นในอนาคต
  • ปีนี้เป็นปีแรกที่เริ่มมีรายได้จากการขายคอนโดฯ “ESCENT”ใน 3 ทำเลใกล้กับศูนยการค้าเซ็นทรัลที่เชียงใหม่ ระยอง และขอนแก่นมูลค่ารวมเกือบ 3 พันล้านบาทในช่วง 2Q61-3Q61 ซึ่งปัจจุบันขายหมดแล้วทุกโครงการจึงไม่มีความเสี่ยงเรื่องสินค้าเหลือขายและช่วยหนุนรายได้ปีนี้เติบโตสูง ทั้งนี้ บริษัทมีแผนพัฒนาโครงการใหม่ปีละ 2-3 โครงการ ปีนี้จะเปิดศูนย์การค้าใหม่ที่ภูเก็ตราวเดือนก.ย.และ i-City มาเลเซียราว 4Q61 ส่วนโครงการปีหน้าที่มีความชัดเจนแล้วได้แก่สาขาอยุธยาและ Luxury Outlet ที่สุวรรณภูมิ
  • ความเห็น เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อศักยภาพในการเติบโตของรายได้และผลการดำเนินงานในอนาคต คาดกำไร 2Q61 มีแนวโน้มเติบโต YoY จากการเริ่มโอนคอนโดฯ Bloomberg Consensus คาดกำไร 2Q61 ราว 2,483 ลบ. เติบโต 11%YoY และคาดกำไรปกติปี 61 ราว 1.2 หมื่นลบ. เติบโต 22% จากกำไรปกติปี 60 ที่ไม่รวมค่าชดเชยเพลิงไหม้ 3.5 พันลบ.

หุ้นมีข่าว   

·        TISCO Analyst Meeting (ราคาปิด 87.40 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 97.40)

·        กำไร 1H61 เท่ากับ 3,745 ลบ. +16%  เติบโตดีจากพอร์สินเชื่อที่รับโอนจากธ.สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) หนุนรายได้ดอกเบี้ยและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเติบโตดี Bloomberg Consensus คาดกำไรทั้งปี 61 ราว 7.2 พันล้านบาท + 18%

·        NPL กลับสู่ภาวะปกตินานแล้ว ทำให้ credit cost ลดลงต่อเนื่องเหลือ 0.9% จาก 1.5% ใน 1Q61 และมีสำรองส่วนเกินมีสัดส่วนสูงถึง 56% ของตัวเลขสำรองทั้งหมด ขณะที่ BIS ratio ไต่ขึ้นทุกไตรมาสสู่ 22.7% ใน 2Q61แสดงถึงฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง

·       ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อภาพรวมการดำเนินงานที่มีศักยภาพเติบโตต่อเนื่อง IAA Consensus คาด yield สูงน่าสนใจที่ 6.2% เหมาะถือลงทุนระยะยาวรับเงินปันผล

·       +ANAN กลับมาโตแข็งแกร่ง หลังโอน "แอชตัน อโศก" ในปีนี้กว่า 60% จากมูลค่าโครงการ 6.7 พันล้านบาท โบรกปรับประมาณการกำไรขึ้น 25% เป็น 2.07 พันล้านบาท จับตาครึ่งปีหลังโดดเด่น จากการโอนโครงการใหม่ภายใต้การร่วมทุนอีก 5 โครงการ มูลค่าราว 2.55 หมื่นล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)   

·       วันนี้ KTC เริ่มเทรดพาร์ใหม่ 1 บาท (ที่มา ทันหุ้น)   

·       +CRD ได้งานก่อสร้างใหม่ 2 โครงการ มูลค่ารวม 454.4 ล้านบาท ได้แก่ โครงการ Hyatt Regency, Koh Samui ซึ่งเป็นงานก่อสร้างโรงแรมและรีสอร์ท ความสูง 1-3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 28,000 ตารางเมตร ของบริษัท สมุย วิพรรธน์ จำกัด มูลค่า 342.40 ล้านบาท สิ้นสุดการก่อสร้างแล้วเสร็จวันที่ 30 ก.ย.62

·       ความเห็น เป็นข่าวเชิงบวกในการได้รับงานต่อเนื่อง งานเอกชนจะสนับสนุนอัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้ให้ปรับดีขึ้นจากปีก่อนซึ่งเป็นไปตามคาดหมายของผู้บริหาร ฝ่ายวิจัยประมาณการรายได้จากการรับเหมาก่อสร้างปี 61 อยู่ที่ราว 1.48 พันล้านบาทเติบโต 10%  ด้วยสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้น 9% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ  8.3% ในปี 60 ส่งผลให้คาดการณ์กำไรสุทธิใหม่ปี 61 อยู่ที่ราว 57 ล้านบาทซึ่งเติบโต 30%  

·       CHUO เคาะขายหุ้นเพิ่มทุน RO สัดส่วน10.1:1 ราคา 0.40 บ./หุ้น จองซื้อ 20-24 ส.ค.

·       +BCP จะขายหุ้นแหล่ง Galoc ในฟิลิปปินส์ ของ Nido มูลค่าราว 660 ลบ. เพื่อนำเงินสดมาใช้ลงทุนสำหรับโครงการใหม่

·       กลุ่มทีวีดิจิทัล : นีลเส็น เผยข้อมูลงบซื้อสื่อโฆษณา ในช่วง 1H61 แม้ลดลง 1.57 % YoY แต่กลุ่มการซื้อโฆษณากลุ่มทีวีดิจิทัลยังเติบโต 27.49%YoY มาที่ 1.41 หมื่นล้านบาท ตามมาด้วยโรงภาพยนตร์ เติบโต 12.46%YoY และป้ายโฆษณา เติบโต 9.71%YoY นอกจากนี้ หากพิจารณาเฉพาะเดือน มิ.ย. 61 ทีวีดิจิทัลยังเติบโตสูงถึง 65.01%YoY (ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ)