ดอลล์แข็งค่าขึ้นหลังบอนด์ยีลด์สหรัฐดีดตัว

ดอลล์แข็งค่าขึ้นหลังบอนด์ยีลด์สหรัฐดีดตัว

ขณะเงินปอนด์ร่วงเหตุวิตกอนาคตเบร็กซิท

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้น รวมทั้งข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 111.29 เยน จากระดับ 110.81 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9924 ฟรังก์ จากระดับ 0.9920 ฟรังก์ ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.3215 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3256 ดอลลาร์ ขณะที่ดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.7402 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7466 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนยูโรแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 1.1749 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1748 ดอลลาร์

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 2.867% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.968% เมื่อคืนนี้

นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับปัจจัยหนุนจากข้อมูลแรงงานล่าสุดของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตำแหน่งงานนอกภาคเกษตรที่เปิดรับสมัครโดยสถานประกอบการในสหรัฐลดลงสู่ระดับ 6.6 ล้านตำแหน่งในเดือนพ.ค. จากระดับ 6.8 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่มีคนว่างงานเพียง 6 ล้านคน โดยตำแหน่งงานว่างในเดือนพ.ค.มีจำนวนมากกว่าคนว่างงานเป็นครั้งที่ 2 ในรอบกว่า 20 ปี

กระทรวงแรงงานสหรัฐ ยังเปิดเผยว่า จำนวนแรงงานที่ลาออกจากงานแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2544 โดยตัวเลขการลาออกจากงานถือเป็นสัญญาณในเชิงบวก ซึ่งแสดงว่าแรงงานมีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถหางานใหม่ที่ให้ค่าตอบแทนสูงกว่า

ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่าลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคตของอังกฤษหลังจากการแยกตัวจากสหภาพยุโรป (เบร็กซิท) โดยนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่า รัฐสภาอังกฤษควรเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ต่างๆที่อาจเกิดขึ้นหลังจากเบร็กซิิท รวมทั้งสถานการณ์ที่ว่า อังกฤษอาจจะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับสหภาพยุโรป (อียู)

หากอังกฤษไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับอียูเกี่ยวกับเบร็กซิทจะส่งผลกระทบต่องบประมาณของอียู รวมทั้งสิทธิของประชาชนในสหราชอาณาจักร และอียูในการอาศัย และเดินทางออกนอกประเทศ