คาดเงินบาทสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.85-33.25

คาดเงินบาทสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.85-33.25

กรุงศรี คาดเงินบาทสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.85-33.25 จับตาตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 32.85-33.25  ต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับปิดอ่อนค่าที่ 33.17 ต่อดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 8 เดือนครั้งใหม่ ท่ามกลางความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทย 1.05 หมื่นล้านบาท และ 700 ล้านบาท ตามลำดับ  ส่วนเงินดอลลาร์อ่อนค่าเทียบกับทุกสกุลเงินหลักท่ามกลางแรงขายทำกำไร หลังความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เกี่ยวกับโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยก่อนกำหนดช่วยหนุนค่าเงินยูโร นอกจากนี้ ข้อมูลการจ้างงานเดือนมิถุนายนของสหรัฐฯ บ่งชี้ว่า ค่าจ้างปรับขึ้นอย่างช้าๆ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงท้ายสัปดาห์  

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า ตลาดจะให้ความสนใจกับตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ หลังอัตราการเพิ่มขึ้นของค่าจ้างสะท้อนว่าตลาดแรงงานที่ตึงตัวสร้างแรงกดดันต่อเงินเฟ้ออย่างจำกัด ขณะที่รายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประจำวันที่ 12-13 มิถุนายนระบุว่าเฟดมีความกังวลเรื่องสงครามการค้าและบ่งชี้ว่าในเร็วๆ นี้ เฟดอาจส่งสัญญาณว่า วัฏจักรการปรับขึ้นดอกเบี้ยอาจเข้าใกล้จุดสมดุล แม้เฟดมีความมั่นใจในแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็ตาม นอกจากนี้ เฟดได้หารือกันในประเด็นที่ว่าการที่ส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยระยะยาวกับระยะสั้นที่แคบลงมากอาจเป็นสัญญาณว่าใกล้จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือไม่ ในภาพรวมนักลงทุนจะยังคงติดตามมาตรการตอบโต้จากจีนหลังการขึ้นอัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ มีผลบังคับใช้แล้ว รวมถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก โดยเราประเมินว่ามีโอกาสที่แรงส่งเชิงบวกของเงินดอลลาร์จะแผ่วลงหลังค่าแรงที่ต่ำกว่าคาดอาจส่งผลให้เฟดเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นต่อการขึ้นดอกเบี้ยในระยะข้างหน้า

สำหรับปัจจัยในประเทศ บันทึกการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ระบุว่ากนง.ได้พิจารณาเงื่อนไขและเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในอนาคตโดยมองว่าหากเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ดีต่อเนื่องและเงินเฟ้ออยู่ในกรอบเป้าหมายชัดเจนขึ้น ความจำเป็นที่จะต้องใช้ดอกเบี้ยต่ำมากเป็นพิเศษจะเริ่มลดลง อย่างไรก็ตาม กนง.ประเมินว่านโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ และการตอบโต้จากประเทศคู่ค้าที่รุนแรงขึ้นอาจกระทบการขยายตัวของการค้าโลกในปี 2562 มากกว่าที่ประเมินไว้  ทั้งนี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ยังมองว่ากนง.จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 1.75% ภายในปี 2561