'สุรเชษฐ์' ยันพรุ่งนี้ชัดเจน เอาผิดเรือนอมีนีทัวร์ศูนย์เหรียญที่ภูเก็ต
"รอง ผบช.ทท." ยันบ่ายพรุ่งนี้ชัดเจน เอาผิดเรือนอมีนีทัวร์ศูนย์เหรียญที่ภูเก็ต
จากกรณีที่เรือนักท่องเที่ยวเกิดอับปางกลางทะเลบริเวณ เกาะเฮ ต.ราไวย์ อ.เมืองฯ จ.ภูเก็ต ห่างจากท่าเทียบเรืออ่าวฉลองไปประมาณ 20 กิโลเมตร เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ยิ่งไปกว่านั้น ในเวลาต่อมาได้รับการเปิดเผยจาก พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รอง ผบช.ทท.) ว่า เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเรือทั้ง 3 ลำ ประกอบด้วย เรือฟินิกซ์ ทีจีไดวิ่ง ที่ล่มตรงเกาะเฮ เรือซีเรนาต้า ที่ล่มตรงเกาะไม้ท่อน-เกาะเฮ และ เรือเจ็ตสกี ที่ล่มตรงเกาะราชา ซึ่งทำให้พบว่าเป็นเรือที่ไม่ได้มาตรฐาน โดย 1 ใน 3 ลำ มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มทุนต่างชาติ ประกอบกิจการทัวร์ศูนย์เหรียญ ที่ถูกจับกุมยึดทรัพย์ไปก่อนหน้านี้ รวมถึง พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ยังได้โพสต์ในเพจเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า “พอกันที สำหรับนอมินีข้ามชาติ สร้างความเสียหายให้ ”เมืองภูเก็ต“ ต่อเนื่องยาวนาน ได้เวลาขุดรากถอนโคน คนภูเก็ตจะได้มีที่ทำกินโดยไม่ต้องมีต่างชาติมาเบียดเบียน คนภูเก็ต หรือใครก็ตามที่มีเบาะแสพวกนอมินีข้ามชาติ ร้องเรียนเข้ามาเลย 24 ชั่วโมง”
ล่าสุดเมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 9 กรกฎาคม พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า การดำเนินการตรวจสอบเรือที่ล่มอับปางกลางทะเลที่ จ.ภูเก็ต มีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งแน่ชัดแล้วว่า 1 ใน 3 ลำ มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มทุนต่างชาติ ประกอบกิจการทัวร์ศูนย์เหรียญ แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เนื่องจากหากเปิดเผยไปก่อนที่จะรวบรวมพยานหลักฐานที่ชัดเจน จะเป็นการปรักปรำ อย่างไรก็ตามช่วงเย็นวันนี้( 9 ก.ค.) จะเดินทางไปที่ จ.ภูเก็ต เพื่อประชุมคณะทำงาน สรุปข้อมูลหลักฐานที่รวบรวมได้ จากนั้นในช่วงบ่ายวันที่ 9 กรกฎาคม จะมีการแถลงข่าวความชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกครัง
“มั่นใจว่าสามารถเอาผิดได้แน่ ตอนนี้รู้แล้วว่าเป็นเรือลำไหน ซึ่งเป็น 1 ใน 3 เรือที่ล่ม ใครเป็นนอมีนี ใครเป็นนายทุน กระทำผิดแบบไหน หลบเลี่ยงอย่างไร ยืนยันจะขุดรากถอนโคนขบวนการนี้ให้สิ้นซาก เพื่อไม่ให้สร้างความเสียหาย แย่งที่ทำกินของพี่น้องคนไทย ไม่ว่าจะเป็นเรือนำเที่ยว เรือดำน้ำ เรือยอชต์ สปีดโบ๊ท เจ็ตสกี ฯ เพราะกลุ่มนายทุนต่างงชาติได้เข้ามาแพร่อิทธิพลในพื้นที่ จ.ภูเก็ต และจังหวัดใกล้เคียงที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยในอดีต มีการให้คนไทยถือครองสิทธิ์เป็นนอมินี ทำกิจการทัวร์ในลักษณะศูนย์เหรียญ แต่ปัจจุบันเปลี่ยนรูปแบบการประกอบธุรกิจ โดยการเช่าเรือยอชต์ ทำธุรกิจให้บริการไดวิ่ง หรือธุรกิจดำน้ำ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ” พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวยืนยัน