แกะรอย! ปฏิบัติการดีเดย์พา13หมูป่าพ้นถ้ำ 4คนออกมาแล้วอย่างปลอดภัย

แกะรอย! ปฏิบัติการดีเดย์พา13หมูป่าพ้นถ้ำ 4คนออกมาแล้วอย่างปลอดภัย

รายงาน...แกะรอย! ปฏิบัติการดีเดย์พา13หมูป่าพ้นถ้ำ หลังออกมาแล้ว4คนอย่างปลอดภัย ภายใต้บทบาทนำของ "ผบ.ศอร." ที่ชื่อว่า "ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร"

ลุ้นกันตั้งแต่ช่วงเย็นจนถึงดึกวานนี้ (8ก.ค.) หลัง ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวะพะเยา และในฐานะผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย (ผบ.ศอร.) แถลงเปิดปฏิบัติการ ดีเดย์พานักเตะ13หมูป่าอะคาเดมี่กลับบ้าน ในตอนเช้านี้ ซึ่งที่แรกคาดว่า จะพาคนแรกออกมาตอน 21.00 น. แต่ปรากฎว่า ออกมาเร็วกว่าที่คาดไว้

แกะรอย! ปฏิบัติการดีเดย์พา13หมูป่าพ้นถ้ำ 4คนออกมาแล้วอย่างปลอดภัย

เริ่มตั้งแต่มีรายงานข่าวระบุว่า เมื่อเวลา 17.15 น. มีเด็กทีมหมูป่า 2 คน สามารถออกมาถึงโถง 3 แล้ว และ 17.28 น. กำลังลำเลียงหมูป่า 2 คนออกมา จากโถง 3 มาปากถ้ำ ล่าสุดมีรายงานว่า ถึงปากถ้ำหลวงแล้ว เมื่อเวลา 17.40 น. อยู่ที่รพ.สนาม เพื่อตรวจร่างกาย
18.39 น. มีรายงานทีมหมูป่าคนที่ 3 กำลังออกถึงปากถ้ำ
18.54 น. รถรพ. 2 คันติดไฟไซเรน เคลื่อนออกจากบริเวณรพ.สนาม แล่นไปไม่ได้ใช้ความเร็วมาก
19.08 น. ฮ.ยกตัว จากสนามกีฬาบ้านจ้อง และหมูป่าคนที่ 4 ออกจากถ้ำ

แกะรอย! ปฏิบัติการดีเดย์พา13หมูป่าพ้นถ้ำ 4คนออกมาแล้วอย่างปลอดภัย


19.09 น. รับแจ้งว่า ทีมหมูป่า คนที่ 3 - 4 จะใช้เส้นทางรถยนต์
19.13 น. ทีมหมูป่าคนที่ 5,6 กำลังอยู่โถง 3
19.30 น. รถรพ.2คนทีมหมูป่า ถึงโรงพยาบาลเชียงรายฯ
19.40 น. กำลังรอลำเลียงทีมหมูป่าคนที่ 3, 4, จากรพ.สนามหน้าถ้ำหลวง
20.30 น. รถตู้ 3 คันวิ่งออกจากหน้าถ้ำ
20.32 น. มีทีมหมูป่าออกมาจากถ้ำ1ราย และ "ผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์" แจ้งแถลงข่าวตอนสามทุ่ม

แกะรอย! ปฏิบัติการดีเดย์พา13หมูป่าพ้นถ้ำ 4คนออกมาแล้วอย่างปลอดภัย

น่าสนใจว่า ตั้งแต่มีข่าวออกมาเมื่อเวลา 17.15 น. ยังไม่มีข่าวออกมาอย่างเป็นทางการ จนเมื่อเวลา 19.40 น. เพจเฟซบุ๊ค Thai NavySEAL ได้โพสต์ข้อความยืนยัน ระบุว่า "19.35 น. หมูป่า 3 ตัว ออกจากถ้ำ"

และถัดมา "ผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์" ออกมาแถลงข่าวที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โป่งผา ยืนยันพาเด็กทีมหมูป่าออกมาคนแรก เมื่อเวลา 17.40 น.

ผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ชี้แจงมีนักประดาน้ำ ทั้งหน่วยซีล และนักดำน้ำมือ 1 ของโลก จากหลายประเทศ พร้อมเครื่องมือทันสมัยเข้าไปลำเลียงผู้ประสบภัย ที่ติดอยู่บริเวณเนินนมสาว ห่างจากปากถ้ำหลวงฯ ไปประมาณ 3.7 กิโลเมตร เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

การเปิดปฎิบัติการดังกล่าว เนื่องจากมีหลายองค์ประกอบที่สอดรับกัน ไม่ว่าจะเป็นสภาพร่างกายของน้องๆ ทั้งหมด ที่มีความสมบูรณ์เรียกได้ว่า 100 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งระดับน้ำภายในถ้ำที่ลดลง จนทำให้โถงถ้ำทั้ง 3 แห่งมีระดับน้ำลดลงด้วยเช่นกัน ประกอบกับสภาพอากาศโดยเฉพาะฝนลดน้อยลงด้วยเช่นกัน ซึ่งหากปล่อยให้เวลาให้ล่วงเลยไปถึงสัปดาห์หน้า อาจทำให้มีฝนตกหนัก จนสถานการณ์จากความได้เปรียบ อาจเปลี่ยนไปในทางลบ

แกะรอย! ปฏิบัติการดีเดย์พา13หมูป่าพ้นถ้ำ 4คนออกมาแล้วอย่างปลอดภัย

ทั้งนี้ จากการประเมินร่วมกันทุกทีมงาน ไม่ว่าจะเป็นทีมนักประดาน้ำจากหน่วยซีล และนักประดาน้ำชั้นยอดจากต่างประเทศ หรือทุกๆหน่วยงานแล้ว ความได้เปรียบในครั้งนี้ ถือว่าเป็นโอกาศทองที่จะสามารถนำเด็กๆ ทีมหมูป่าทั้ง 13 ราย ออกมาได้อย่างปลอดภัย ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวถือว่าเป็นบวก หรือเป็นผลดีกับทางทีมช่วยเหลือ ดังนั้น จึงอาศัยจังหวะนี้ เปิดปฎิบัติการ “ดีเดย์ พา 13 นักเตะหมูป่าอะคาเดมี่ กลับบ้าน”

สำหรับการลำเลียงเยาวชนที่ประสพภัย ออกจากถ้ำในครั้งนี้ จะใช้ทีมนักประดาน้ำ 2 นาย ต่อเด็ก 1 คน โดยจะคอยดูแลและประคับประคองตลอดระยะทาง จนถึงปากถ้ำ ทั้งนี้ หากน้องๆ หรือผู้ประสบภัยรายใด ได้รับบาดเจ็บในขณะลำเลียง ก็จะมีทีมแพทย์พร้อมอุปกรณ์ช่วยเหลือบริเวณด้านหน้าถ้ำในเบื้องต้น โดยทีมแพทย์ทั้งหมดมาจากทีมแพทย์ทหาร และทีมแพทย์ตำรวจ

ทั้งนี้ เมื่อทีมแพทย์บริเวณด้านหน้าถ้ำ ทำการตรวจสอบอาการแล้ว และลงความเห็นว่า ผู้ประสบภัยมีอาการปกติ แผนแรกคือ จะลำเลียงโดยใช้รถพยาบาล ซึ่งได้มีการจัดเตรียมเอาไว้บริเวณหน้าถ้ำ โดยจะมีแพทย์ 2 นาย คอยดูแลอาการจากหน้าถ้ำไปจนถึงโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ซึ่งอยู่ห่างออกไปกว่า 55 กิโลเมตร โดยขณะลำเลียงจะมีรถไซเลนตำรวจ คอยวิ่งเปิดทางนำขบวนให้ตลอดทาง คาดว่าจะใช้เวลาลำเลียงในส่วนนี้ประมาณ 40-50 นาที

แกะรอย! ปฏิบัติการดีเดย์พา13หมูป่าพ้นถ้ำ 4คนออกมาแล้วอย่างปลอดภัย

หากเมื่อทีมแพทย์บริเวณด้านหน้าถ้ำ ทำการตรวจสอบอาการผู้ประสบภัย และลงความเห็นว่า อาการไม่สู้จะดีนัก แผนที่สอง จะลำเลียงผู้ประสบภัยที่มีอาการหนัก ไปขึ้นรถพยาบาลบริเวณหน้าถ้ำ โดยมีทีมแพทย์ 2 นาย คอยติดตามดูอาการอย่างใกล้ชิด และลำเลียงผุ้ประสบภัยไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ที่ได้จัดเตรียมไว้ ซึ่งอยู่ห่างจากด้านหน้าถ้าไปประมาณ 200-300 เมตร จากนั้นเฮลิคอปเตอร์ จะบินจากถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนฯ ไปลงที่สนามบินเก่า จ.เชียงราย ซึ่งจะใช้เวลาประมษณ 10-15 นาที จากนั้นก็จะมีรถพยาบาลพร้อมรถตำรวจนำขบวน รับช่วงไปส่งต่อที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ซึ่งจากสนามบินเก่า และโรงพยาบาล อยู่ห่างประมาณ 1 กิโลเมตร และใช้เวลาในการเดินทางเพียงแค่ 5-7 นาที

เมื่อฟังคำอธิบาย "ผบ.ศอร." เมื่อเวลา 20.49 น. ที่อบต.โป่งผา หลังทะยอยส่งเด็กๆทั้ง4คนไปยังรพ.เชียงรายฯ เรียบร้อยแล้ว ว่าวันนี้จึงสามารถช่วยเหลือน้องๆ ช่วยหมูป่า 4 ตัวออกจากถ้ำได้อย่างปลอดภัยทุกคนและนำส่ง รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์เรียบร้อยแล้ว ในการปฏิบัติภารกิจที่ได้มีการแถลงข่าวในช่วงเช้าวันนี้ว่าจะมีเจ้าหน้าที่ดำน้ำถ้ำผู้เชี่ยวชาญทั้งหมด 13 คน และหน่วยซีลอีก 5 คนช่วยในภารกิจ แต่เมื่อถึงเวลาจริง มีเจ้าหน้าที่ช่วยในภารกิจทั้งหมดกว่า 90 นาย ซึ่งในจำนวน 50 นาย เป็นนักดำน้ำจากหลายประเทศทั่วโลกที่อาสามาร่วมใจช่วยเหลือ ที่เหลืออีก 40 นายเป็นนักดำน้ำจากไทยปฏิบัติการร่วมกัน โดยใช้การให้น้องเกาะนักประดาน้ำออกมาโดยใส่หน้ากากเต็มใบกันน้ำมีระบบเซฟตี้อย่างเต็มที่

"เดิมที่คาดการไว้ว่าภารกิจที่จะช่วยเหลือและนำตัวออกมาได้ จะนำคนแรกออกมาจากปากถ้ำได้ในเวลาประมาณ 21.00 น. แต่ปฏิบัติการในวันนี้สำเร็จได้รวดเร็วกว่าที่คาด น้องคนแรกสามารถช่วยออกมาผ่านโถงถ้ำและพ้นปากถ้ำ ได้ในเวลา 17.40 น. ส่วนคนที่ 2 ออกมาห่างกันราว 10-20 นาที ซึ่งหลังจากที่ได้มีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นจนมีอาการที่ปกติคงที่แล้ว จึงได้มีการนำทั้ง 2 คนส่ง รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์เรียบร้อยแล้ว ในรอบแรก..

แกะรอย! ปฏิบัติการดีเดย์พา13หมูป่าพ้นถ้ำ 4คนออกมาแล้วอย่างปลอดภัย

"เราสามารถช่วยน้องๆหมู 4 ตัวได้สำเร็จ และปลอดภัย เป็นผลงานชิ้นโบว์แดง ของทุกทีมที่ช่วยกันปฏิบัติภารกิจในถ้ำหลวงแห่งนี้ จากหลายพันคน หลาหหลายภารกิจ ทุกคนล้วนดีใจ และได้รับการฝากมาว่าขอขอบคุณสื่อมวลชนที่เสียสละพื้นที่ ให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ ซึ่งผลก็คือสามารถทำงานได้อย่างราบรื่นมาก การขนส่งรถจากตำแหน่งที่เกิดเหตุไปยังตำแหน่งจุดเฝ้ารอ ใช้เวลาเพียง 2 นาที จากเดิมที่ทดสอบแผน ใช้เวลาร่วม 10 นาที แต่เมื่อไร้ผู้สื่อข่าวและช่างภาพ ก็สามารถทำงานได้เร็วขึ้นถึง 5 เท่า จึงอยากขอบคุณทุกคนที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี.."

ดังนั้น การปฏิบัติการภายใต้การนำของ "ผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์" จึงคืบหน้าและมีประสิทธิภาพกว่าที่ซักซ้อม ก็เพราะการสั่งการเด็ดขาดและประเมินสถานการณ์ได้ถูกต้องนั่นเอง!!