อนุญาตให้เรือนำเที่ยว ออกจากฝั่งภูเก็ตแล้ว ลุยยกเรือฟินิกซ์

อนุญาตให้เรือนำเที่ยว ออกจากฝั่งภูเก็ตแล้ว ลุยยกเรือฟินิกซ์

จนท.อนุญาตให้เรือนำเที่ยวออกจากฝั่งอ่าวฉลอง จังหวัดภูเก็ต ไปยังแหล่งท่องเที่ยวระยะใกล้ เผยจองไว้ล่วงหน้าก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่เตรียมอุปกรณ์ยกเรือฟินิกซ์

ความคืบหน้าการค้นหาผู้ประสบภัยจากเหตุเรือล่มบริเวณเกาะเฮ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2561 ว่าช่วงเช้าวันนี้ (8ก.ค.61) ที่ท่าเทียบเรือศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามัน บ้านแหลมพันวา ต.วิชิต อ.เมือง ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ทหาร นำเรือหลวงหัวหิน เรือหลวงปันหยี และเรือหลวงทองหลาง พร้อมอุปกรณ์ในการเตรียมกู้เรือ

เดินทางไปสนับสนุนการค้นหายังจุดเกิดเหตุเรือฟินิกส์ล่ม ซึ่งจุดอยู่ในทะเลทางทิศใต้ของเกาะเฮ ห่างจากเกาะภูเก็ตไปประมาณ 1.5 ไมล์ทะเล (2.8 กิโลเมตร) โดยมีหน่วยกู้ชีพมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต มูลนิธิร่วมกตัญญู มูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี มูลนิธิท่งเซี่ยงตึ๊งหาดใหญ่ เเละสื่อมวลชน เกือบ100 คนร่วมลงเรือไปด้วย

ส่วนแผนการค้นหาผุ้สูญหายที่ยังคงเหลืออีก 15 ราย หลังจากมีการค้นพบแล้ว 41 ราย นั้น จากผลการประชุมเตรียมการปฏิบัติในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ห้องประชุม บก.ทรภ.3 โดยมี พล.ร.ท.สมนึก เปรมปราโมทย์ ผบ.ทรภ.3 เป็นประธาน สรุปผลการประชุม ดังนี้ 1.ให้ดำเนินการควบคู่กันไประหว่างการเก็บร่างผู้เสียชีวิตและการพลิกเรือ ซึ่งในการพลิกเรือและกู้เรือให้ เจ้าท่า เป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติ 2.กำหนดมาตรการในการค้นหาเพิ่มเติม

โดยให้หมวดรักษาความสงบเรียบร้อย ทัพเรือภาคที่ 3 เจ้าหน้าที่หน่วยรักษาความปลอดภัยเกาะภูเก็ต และเจ้าหน้าที่หน่วยรักษาความปลอดภัย เกาะลันตาน้อย สำรวจพื้นที่ชายหาด และเกาะแก่งในพื้นที่รับผิดชอบทางเท้าเพื่อค้นหา กรณีมีร่างผู้เสียชีวิตขึ้นตามชายหาดและเกาะต่างๆ 3.ปรับพื้นที่การค้นหาไปทางตะวันออกบริเวณ ระหว่างเกาะยาว -เกาะพีพี ตามที่กรมอุทกศาสตร์ทหารเรือได้ทำนาย และ 4.ให้ทำการสำรวจภายในตัวเรืออีกครั้ง ให้แน่ใจว่าไม่มีร่างผู้เสียชีวิตติดอยู่ภายในตัวเรือ

ส่วนที่บริเวณท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งในช่วงระหว่างวันที่ 6-7 กรกฎาคม 2561 ได้มีการประกาศห้ามเรือนำเที่ยวออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด ซึ่งในวันนี้ (8 ก.ค.) หลังจากที่มีการอนุญาตให้เรือออกจากฝั่งได้ ปรากฏว่าได้มีเรือนำเที่ยวขนาดต่างๆ เริ่มนำนักท่องเที่ยวออกไปยังเกาะแก่งบริเวณใกล้เคียง เช่น เกาะเฮ เกาะราชา เป็นต้น เนื่องจากใช้เวลาในการเดินทางไม่นาน ซึ่งจะมีการเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยของการเดินเรือและนักท่องเที่ยวจะต้องสวมเสื้อชูชีพก่อนเรือออกจากท่า จากการสังเกตพบว่านักท่องเที่ยวที่มาส่วนใหญ่ยังคงเป็นชาวจีน ที่มากันเป็นครอบครัว

จาการสอบถามไกด์นำเที่ยว ระบุว่า นักท่องเที่ยวจีนเหล่านี้ ได้มีการจองทัวร์ล่วงหน้าไว้ก่อนเกิดเหตุการณ์เรือล่ม

จากการสอบถามนายนิกร ประภากิจยศพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทนิกรมารีน จำกัด ซึ่งให้บริการนำเที่ยวทางทะเล กล่าวว่า หลังจากทางเจ้าท่าฯ ได้ประกาศห้ามนำเรือออกจากฝั่งท่าเทียบเรืออ่าวฉลองเป็นเวลา 2 วัน

และวันนี้ (8 ก.ค.) มีการอนุญาตให้นำเรือออกได้ ซึ่งจากการตรวจสอบสภาพอากาศแล้วพบว่าระดับคลื่นลมลดน้อยลงกว่าในช่วงที่ผ่านมา แต่เราก็ไม่ประมาท โดยเน้นย้ำกับทางพนักงานในการดูแลนักท่องเที่ยวให้มีความปลอดภัยสูงสุด และก่อนที่จะลงเรือก็ได้มีการบรรยายและฉายวิดิทัศน์เกี่ยวกับการปฎิบัติตัวของนักท่องเที่ยวรวมถึงวิธีการสวมใส่เสื้อชูชีพที่ถูกต้อง ซึ่งทำมาอย่างนี้มาตลอด


นอกจากนี้หากเกิดอะไรขึ้นก็ให้ทางกัปตันเป็นผู้มีอำนาจในการตัดสินใจสูงสุด เพราะจะเป็นผู้มีประสบการณ์ หากพบว่าไม่ปลอดภัยก็ให้นำเรือกลับเข้าฝั่งได้ทันที เฉพาะวันนี้มีการนำนักท่องเที่ยวออกไปประมาณ 400-500 คน ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวที่จองโปรแกรมนำเที่ยวไว้ล่วงหน้าแล้ว และเลื่อนการเดินทางเนื่องจากเหตุเรือล่ม ส่วนใหญ่ยังคงเป็นนักท่องเที่ยวจีน ทั้งนี้จะเดินทางไปที่เกาะเฮ ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ15 นาที และเกาะราชา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที