เปิดปูม“อีลอน มัสก์”เจ้าของเทคโนโลยีขุดอุโมงค์โลก

เปิดปูม“อีลอน มัสก์”เจ้าของเทคโนโลยีขุดอุโมงค์โลก

ล่าสุด อีลอน มัสก์ต่อยอดความฝันด้วยก่อตั้งบริษัทบอริง สร้างอุโมงค์ยักษ์ใต้ดินเพื่อใช้ในการเดินทางด้วยความเร็วสูงด้วย

อีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งบริษัทสเปซเอ็กซ์  เป็นผู้คิดค้นวิธีนำจรวดกลับมาใช้ใหม่ได้เป็นรายแรกของโลก และเจ้าของบริษัทบอริง ที่เชี่ยวชาญในการขุดอุโมงค์ อยู่ในความสนใจของชาวไทยทั้งประเทศทันทีที่ ประกาศผ่านทวิตเตอร์ @elonmusk ว่าจะส่งทีมวิศวกรเดินทางมาเมืองไทยเพื่อช่วยทีมหมูป่าอะคาเดมีทั้ง 13 ชีวิตและเขาก็ได้ทำตามที่ประกาศจริงๆ

มาทำความรู้จักนักธุรกิจชื่อดังชาวอเมริกันผู้ใจดีรายนี้กันหน่อยดีกว่าว่ากว่าจะมาเป็นเจ้าของเทคโนโลยีขุดอุโมงค์ในถ้ำจนโด่งดังไปทั่วโลกนั้น เขาผู้นี้ผ่านอะไรมาบ้าง

อีลอน มัสก์ หรืออีลอน รีฟ มัสก์ เกิดเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. ปี 2514 ที่เมืองพรีทอเรีย ประเทศแอฟริกาใต้ ปัจจุบันอายุ 47 ปี ได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารฟรอบส์ให้เป็นบุคคลที่มีฐานะมั่งคั่งที่สุดเป็นอันดับ 56 ของโลก เมื่อเดือนมิ.ย.ปี 2561

อีลอน มัสก์ เกิดในครอบครัวร่ำรวย บิดาคือเออร์โรล มัสก์เป็นวิศวกรอิเล็กทรอนิกส์ที่มีธุรกิจมากมาย รวมทั้งเป็นเจ้าของเหมืองมรกต ส่วนแม่คือเมย์ มัสก์ เป็นนักโภชนาการและนางแบบลูกครึ่งแคนาดา-อเมริกัน แต่อีลอน มัสก์กลับมีชีวิตวัยเด็กที่เหงาและเศร้า เพราะพออายุ 9 ขวบ พ่อกับแม่หย่าร้างกัน อีลอนอยู่ในความดูแลของพ่อที่แอฟริกาใต้ ส่วนแม่กลับไปประเทศแคนาดา ซึ่งนี่คือจุดเปลี่ยนในชีวิตของเขา ในฐานะลูกคนโต พ่อให้เขาทำงานทุกอย่างในบ้าน และเขาเริ่มไม่ลงรอยกับพ่อ ส่วนที่โรงเรียน อีลอน มักตกเป็นเหยื่อการกลั่นแกล้งของเพื่อนๆ ถึงขั้นถูกโยนลงบันไดและรุมซ้อมจนหมดสติ ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล

ชีวิตในวัยเด็กที่รันทด ทำให้อีลอน เป็นคนเก็บเนื้อเก็บตัว ไม่สุงสิงกับใคร และมักจะขลุกอยู่แต่ในห้องสมุด เฉพาะหนังสือแนววิทยาศาสตร์ ศาสนา และปรัชญา ที่ทำให้เขาเข้าใจชีวิต และห่วงใยในเพื่อนมนุษย์ และหนังสือเล่มสำคัญที่เปลี่ยนชีวิตของอีลอนคือ The Hitchhiker’s Guide to the Galaxy เป็นหนังสือเกี่ยวกับการท่องอวกาศที่จุดประกายให้อีลอนมุ่งมั่นว่า การปกป้องมวลมนุษยชาติคือภารกิจในชีวิต

อีลอน สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านฟิสิก์และเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ขณะอายุ 23 ปี จากนั้นเรียนต่อปริญญาโทและเอกสาขาฟิสิกส์ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ที่อยู่ใจกลางซิลิคอนวัลเลย์ แต่หลังจากเรียนปริญญาเอกได้แค่ 2 วัน เขาก็ลาออกเพราะอยากทุ่มเทให้กับโครงการในฝันมากกว่า

ปี 2554 อีลอน ประกาศโครงการนำคนไปสัมผัสดาวอังคารให้ได้ภายในปี 2564-2574 โดยมีแผนจะทำจรวดที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ซึ่งสามารถลดต้นทุนการเดินทางสู่อวกาศได้อย่างมหาศาล และโครงการของเขาก็ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบการลงจอดของจรวดในแนวดิ่ง ในเป้าหมายที่จำกัดพื้นที่ หรือการทดสอบการลงจอดของจรวดในทะเล

ล่าสุด อีลอน ยังต่อยอดความฝันด้วยก่อตั้งบริษัทบอริง สร้างอุโมงค์ยักษ์ใต้ดินเพื่อใช้ในการเดินทางด้วยความเร็วสูงด้วย