โครเอเชียชนะรัสเซีย 4-3 ชนอังกฤษ รอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 2018

โครเอเชียชนะรัสเซีย 4-3 ชนอังกฤษ รอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 2018

เจ้าภาพ "รัสเซีย" พ่ายจุดโทษ "โครเอเชีย" 3-4 อดเข้าสู่รอบรองชนะเลิศของศึกฟุตบอลโลก 2018 ทำให้ทีมตาหมากรุก เป็นฝ่ายผ่านเข้าสู่รอบพบกับอังกฤษ และเป็นการเข้ารอบตัดเชือกครั้งแรกในรอบ 20 ปีอีกด้วย

การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบ 8 ทีมสุดท้าย วันนี้ (7 ก.ค.) อีกคู่ที่น่าสนใจ รัสเซีย เจ้าภาพ จะพบกับ โครเอเชีย ที่สนามฟิสท์ สเตเดียม

การจัดทีม "หมีขาว" ส่งผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนาม นำมาโดย อิกอร์ อคินเฟเยฟ, อเลกซานเดอร์ ซาเมดอฟ, เดนิส เชริเชฟ, อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน และอาร์เตม ซูบา

โครเอเชียชนะรัสเซีย 4-3 ชนอังกฤษ รอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 2018

ขณะที่ "ตาหมากรุก" ปรับทัพมาเน้นเกมรุกเต็มที่ โดยให้ อันเดร ครามาริค ลงมาแทน มาร์เซโล โบรโซวิช ประสานงานกับ ลูกา โมดริช, อิวาน ราคิติช, อันเต เรบิช, อิวาน เปริซิช และมาริโอ มานด์ซูคิช

เกมครึ่งแรกทั้ง 2 ทีมผลัดกันรุก และรับอย่างสูสี โดยเป็นฝั่ง โครเอเชีย ที่มีโอกาสจบสกอร์มากกว่าเล็กน้อย ถึงกระนั้นในนาทีที่ 31 กลับเป็นเจ้าภาพที่ออกนำ จากจังหวะที่ เดนนิส เชริเชฟ ทำชิ่งกับ อาร์เตม ซูบา ก่อนเจ้าตัวปั่นด้วยซ้ายบอลเสียบใต้คานเข้าไปอย่างสวยงาม

โครเอเชียชนะรัสเซีย 4-3 ชนอังกฤษ รอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 2018

อย่างไรก็ตาม ในนาทีที่ 39 โครเอเชีย ตามตีเสมอสำเร็จ จากจังหวะเสียบอลกลางทางของ รัสเซีย แล้ว มาริโอ มานด์ซูคิช ได้บอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนเปิดเข้ากรอบเขตโทษให้ อันเดร ครามาริค โหม่งโล่งๆแบบไม่มีใครประกบผ่านมือ อคินเฟเยฟ เข้าไป และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

เข้าสู่ครึ่งหลังในนาทีที่ 60 โครเอเชีย น่าได้ประตูขึ้นนำแบบสุดๆ จากจังหวะที่ อังเดร ครามาริค งัดบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษ แลว อคินฟาเยฟ ทุกออกมาไม่ดีซึ่งบอลมาเข้าทาง อิวาน เปริซิช บริเวณจุดโทษ ซึ่งเจ้าตัวก็ดึงหาจังหวะก่อนจะยิงด้วยขวาบอลพุ่งชนเสาเหลี่ยมใน แต่บอลกระเด้งออกมาอย่างเหลือเชื่อ

หลังจากนั้นแม้ โครเอเชีย จะพยายามโถมเกมบุก แต่สุดท้ายก็เจาะแนวรับของ รัสเซีย ไม่ได้ ทำให้จบ 90 นาที เสมอกันไป 1-1 ต้องไปลุ้นต่อในช่วงทดเวลาพิเศษ 30 นาที

โครเอเชียชนะรัสเซีย 4-3 ชนอังกฤษ รอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 2018

เข้าสู่ช่วงต่อเวลาพิเศษในนาทีที่ 101 โครเอเชีย มาได้ประตูออกนำ จากจังหวะที่ได้ลูกเตะมุมทางด้านขวาแล้ว ลูกา โมดริช โยนมาให้กับ โดมากอย วิดา โหม่งเข้าไป และเป็นการพลิกแซงเป็นครั้งแรกของเกม

อย่างไรก็ตามมาถึงในนาทีที่ 115 รัสเซีย กลับมาตามตีเสมอได้อีกรอบ จากจังหวะที่ได้ลูกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ โครเอเชีย แล้ว อลัน ซาโกเยฟ โยนมาให้กับ มาริโอ แฟร์นันเดส โหม่งเข้าไปแบบสุดสวย ช่วยให้ทีมเจ๊า 2-2

โครเอเชียชนะรัสเซีย 4-3 ชนอังกฤษ รอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 2018

สุดท้ายแล้วไม่มีทีมใดทำสกอร์เพิ่มได้ ทำให้ต้องไปตัดสินทีมเข้ารอบด้วยการดวลจุดโทษ ซึ่งผลปรากฏว่าเป็น โครเอเชีย ที่ยิงได้แม่นกว่าเข้า 4 คน พลาด 1 คน ขณะที่ รัสเซีย พลาด 2 คน ส่งผลให้ทีม "ตาหมากรุก" เป็นฝ่ายผ่านเช้าสู่รอบรองชนะเลิศไปพบกับอังกฤษ และเป็นการเข้ารอบตัดเชือกครั้งแรกในรอบ 20 ปีอีกด้วย