เตือนอย่ารีบให้ 13 ชีวิตติดถ้ำ ทานอาหารหนัก เสี่ยงถึงตาย

เตือนอย่ารีบให้ 13 ชีวิตติดถ้ำ ทานอาหารหนัก เสี่ยงถึงตาย

แพทย์เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ แนะอย่ารีบให้ 13 ชีวิตติดถ้ำ ทานอาหารหนักเพราะอาจเกิดภาวะ "refeeding Syndrome" เสี่ยงถึงตาย

อาจารย์แพทย์หญิง ประพิมพ์พร ฉัตรานุกูลชัย (ฉันทวศินกุล) หน่วยโภชนวิทยาเเละชีวเคมี ทางการแพทย์ คณะเเพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีทีมฟุตบอลติดอยู่ภายในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงรายตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่าน ซึ่งกระทั่งถึงวันนี้ยังไม่สามารถนำตัวทั้งหมดออกมาได้ ว่า

จากวีดีโอที่มีการเผยแพร่ภาพผู้ประสบภัยพบว่า เด็กๆ มีร่างกายซูบผอม แขนขาเล็กลงชัดเจน ซึ่งเป็นภาวะปกติของร่างกายเมื่ออดอาหาร หรือขาดสารอาหารเป็นเวลานาน ร่างกายจะดูดพลังงานจากส่วนต่างๆ มาใช้ โดยเฉพาะไขมัน ยิ่งนานก็หมายความว่าถูกดูดออกไปใช้มาก ในส่วนของน้องๆ ทั้ง 13 คน ขาดอาหารมากกว่า 10 วัน ร่างกายจึงแสดงออกชัดเจน และสาเหตุที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือร่างกายไม่มีการขยับเขยื้อนเท่าที่ควร เมื่อไม่มีการขยับเป็นเวลานาน แขนขาจึงลีบ เหมือนคนไข้ติดเตียงหรือคนไข้ที่รักษาตัวนานๆ ถ้าไม่มีการขยับตัว แขนขาก็จะเล็กลง แต่ในกรณีนี้ผู้ฝึกสอนที่อายุมากที่สุด แนะนำเด็กๆ ได้ถูกต้องและดีมากที่ให้ขยับตัวน้อยที่สุดเพื่อสำรองพลังงาน

"เมื่อเด็กๆ อยู่ในภาวะเช่นนี้ เสี่ยงที่จะเกิดภาวะ refeeding Syndrome (รีฟิดดิ้ง ซินโดรม) คือภาวะเมื่อขาดสารอาหารอย่างหนัก แต่ได้รับสารอาหารอย่างรวดเร็ว หลังเริ่มให้อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง จะกระตุ้นให้ร่างกายกลับมาสร้างไกลโคเจน ไขมัน และโปรตีน อาจทำให้เกิดการลดต่ำลงของระดับเกลือแร่ในเลือดที่สำคัญ เช่น โปแตสเซียม แมกนีเซียม และฟอสฟอรัส ได้ ผู้ป่วยอาจมีอาการทางระบบหัวใจ ปอด และระบบประสาท การมีเกลือแร่ผิดปกติเหล่านี้หากเป็นมากอาจเสียชีวิตได้ "