สค.ดึงผู้นำเข้าชั้นนำ-เว็บไซต์ดังระดับโลก เพิ่มช่องทางระบายลำไยล้นตลาด

สค.ดึงผู้นำเข้าชั้นนำ-เว็บไซต์ดังระดับโลก เพิ่มช่องทางระบายลำไยล้นตลาด

"สนธิรัตน์" สั่งการเร่งระบายลำไยในทุกมิติ หลังคาดการณ์ปีนี้ผลผลิตสูงถึง 665,704 ตัน กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ รับนโยบายแบบเร่งด่วน จัดเจรจาการค้าในพื้นที่ภาคเหนือ ดึงผู้นำเข้าต่างประเทศ 20 ราย คาดสร้างยอดขายกว่า 3,000 ตัน

นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า  ขณะนี้นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายให้กรมฯ ดำเนินการหาตลาดส่งออกลำไยเพิ่มขึ้น เพื่อทดแทนตลาดอินโดนีเซียที่รัฐบาลอินโดนีเซียได้ออกกฎระเบียบห้ามนำเข้าลำไยในช่วงเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม 2561 ซึ่งตรงกับช่วงที่ลำไยทางภาคเหนือของไทยออกสู่ตลาดมาก โดยข้อมูลจากการประชุมคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ ครั้งที่ 3/2561 เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2561 (ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธาน) ระบุว่า ในปีนี้ (2561) ผลผลิตลำไย 8 จังหวัดภาคเหนือ จะมีปริมาณ 654,329 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว (2560) ร้อยละ 6.67 (ปี 2560 มีปริมาณ 613,416 ตัน) และส่วนใหญ่จะออกในช่วงเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม 2561 ประมาณ 381,498 ตัน (เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ร้อยละ1.01)

ทั้งนี้ระหว่างวันที่  17 – 20 กรกฎาคม นี้ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.)  ได้เชิญผู้นำเข้า
ผู้ซื้อจากต่างประเทศ จำนวน 18 - 20 ราย  จากตลาดศักยภาพใหม่ๆ ได้แก่ ประเทศอินเดีย มาเลเซีย  สิงคโปร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อมาเจรจากับผู้ผลิต ผู้ส่งออกสินค้าลำไยและผลิตภัณฑ์จากลำไยของไทย จำนวน 15 – 20 รายที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดลำพูน คาดว่าจะเกิดคำสั่งซื้อทันทีประมาณ 3,000  ตัน

"เป้าหมายเพื่อเร่งรัดและขยายการส่งออกผลไม้ภาคเหนือโดยเฉพาะลำไยสู่ตลาดศักยภาพอื่นๆ ลดการพึ่งพาตลาดส่งออกเดิม รวมถึงการเพิ่มช่องทางในการขยายตลาดส่งออกสินค้าลำไยและผลิตภัณฑ์จากลำไยให้กับผู้ประกอบการไทย ทั้งผู้ส่งออกรายใหญ่ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SMEs) และกลุ่มสหกรณ์การเกษตรที่มีศักยภาพสามารถทำตลาดส่งออกได้เพิ่มขึ้น และที่สำคัญจะช่วยผลไม้ภาคเหนือและผลิตภัณฑ์ลำไยเป็นที่รู้จักแพร่หลายในต่างประเทศมากยิ่งขึ้น" นางจันทิรา กล่าว

นางจันทิรา กล่าวต่อว่า กรมฯ จะมีการจัดกิจกรรมอื่นๆ เพิ่มเติมในงาน นอกเหนือจากการนำผู้นำเข้าและ   ผู้ซื้อจากต่างประเทศมาเจรจาซื้อลำไยจากประเทศไทย (Business Matching) โดยจะมีเวทีเสวนาให้คำปรึกษาใน  ด้านระบบโลจิสติกส์สำหรับสินค้าเกษตร การนำลำไยไปแปรรูปในรูปแบบใหม่ๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม (Creative Longan) รวมถึงการเข้าสู่การค้าในระบบออนไลน์ (E-Commerce)

นอกจากนี้ กรมยังได้เชิญเว็บไซต์ Tmall.com เข้าร่วม "Thai Flagship Store Business Matching" ภายในงาน THAIFEX – World of Food Asia 2018 เพื่อเลือกซื้อสินค้าคุณภาพของไทย ซึ่งลำไยก็เป็นหนึ่งในสินค้าที่ได้รับความสนใจอย่างมาก ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการหารือในรายละเอียด

"ในส่วนของผลผลิตลำไยนั้น กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายในการแก้ไขปัญหาผลผลิตที่คาดว่าจะออกสู่ตลาดจำนวนมากจากสภาพดินฟ้าอากาศที่เอื้ออำนวย โดยท่านรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเร่งจัดหาตลาดใหม่ เพื่อลดการพึ่งพิงตลาดเดิม อย่างเช่น ตลาดอินโดนีเซีย ซึ่งมีแนวโน้มที่จะมีการใช้มาตรการที่มิใช่ภาษีเพิ่มมากขึ้นทุกปี อย่างไรก็ตามทางกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ พร้อมที่จะช่วยเหลือ    พี่น้องเกษตรกรไทยในการแสวงหาตลาดการค้าในต่างประเทศ และส่งเสริมผ่านเครือข่ายหรือกิจกรรมต่างๆ ของกรมฯ ให้สามารถระบายลำไยผ่านช่องทางต่างๆ ให้เร็วที่สุด เพื่อลดปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องเกษตรกรไทยอีกแรงหนึ่ง" นางจันทิรา กล่าว