ระวังแรงขายที่ 1,636

ระวังแรงขายที่ 1,636

SET Index วานนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ท่ามกลางตลาดหุ้นภูมิภาคที่ส่วนใหญ่อ่อนตัวจากความกังวลสงครามการค้ายังปกคลุม

โดยได้รับแรงหนุนจากทุกกลุ่มอุตสาหกรรม และหุ้นที่ฟื้นตัวหลังปรับตัวลงแรงจากปัจจัยเฉพาะตัว อาทิ GGC และ PTTGC ขณะที่มีเพียงกลุ่ม CONMT ที่อ่อนตัว หลักๆเป็นแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันกว่า 4.45 พันลบ. เป็นผลให้ SET Index ปิดที่ 1,626.62 จุด (+19.35 จุด) Volume 5.85 หมื่นลบ. มาจาก Foreign Net -3,288.47 ลบ. TFEX Net +9,860 สัญญา ตราสารหนี้ +4,656.89 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย  

+น้ำมันดิบขยับขึ้นโดยได้แรงหนุนจากลิเบียประกาศภาวะสุดวิสัยในการส่งออกน้ำมัน และแคนาดาประสบปัญหาในการผลิตน้ำมัน "มอร์แกน สแตนลีย์"เพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันสู่ 85 $/bbl

+คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.4%

+ครม.เห็นชอบขยายเวลาคงภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ออกไปอีก 1 ปี ถึง 30 ก.ย. 62

+กกร.ได้ปรับเพิ่มประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2561 เป็น 4.3-4.8% (จากเดิม 4.0-4.5%) และปรับกรอบอัตราเงินเฟ้อทั่วไปขึ้นเป็น 0.9-1.5% (จากเดิม 0.7-1.2%)

+ThaiBMA คาด กนง.คงดอกเบี้ยตลอดปีนี้ก่อนเริ่มปรับขึ้นใน Q1/62 แนะรัฐ-เอกชนเร่งออกหุ้นกู้ช่วงต้นทุนต่ำ

-ดาวโจนส์ปิดร่วงลงจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นเฟซบุ๊กที่ดิ่งลงกว่า 2.3%  อีกทั้งมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 1.85 แสนล้านบาท ค่าเงินบาท 33.14 บาท/US

** จับตาธปท.เผยแพร่รายงานการประชุมกนง.เมื่อ 20 มิ.ย. ที่มีมติ 5:1 เสียงคงอัตราดอกเบี้ย โดยมี 1 เสียงให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสดีดตัวขานรับราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น  และแนวโน้มศก.ปี 61 ที่ยังดีต่อเนื่อง  โดยมีปัจจัยกดดันในเรื่องความกังวลสงครามการค้า และ fund flow ผันผวน คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,617-1,636 จุด

กลยุทธ์การลงทุน   เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- BANPU ราคาถ่านหินปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 9 วันทำการสู่ 115$/Ton +7%

- CPALL ROBINS HMPRO BEM ครม.คง VAT ที่ 7% อีก 1 ปี

- หุ้น Beta <0.5 Dividend > 5% DIF DRT MC LH GLOW

- หุ้น Beta <1.0 Dividend > 3.8% TCAP SCB KTB SAT

- KCE CPF GFPT กลุ่มส่งออก ค่าเงินบาทอ่อนค่าสู่ 33.14 บาท/US

- BDI ปรับเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นวันทำการที่ 4 รวมกว่า 13% มาที่ 1476 จุด

หุ้นแนะนำพิเศษ

BANPU (ราคาปิด 20.10 บาท Bloomberg Consensus 27.17)

  • ได้รับผลบวกจากราคาถ่านหินยืนเหนือระดับ 100 $/Ton เนื่องจากการเข้ามาของผู้เล่นหน้าใหม่ยากขึ้น โดยเฉพาะจากธนาคารในยุโรปที่มีนโยบายให้เงินทุนสนับสนุนธุรกิจถ่านหินยากขึ้น ประกอบกับจีนยังต้องการถ่านหินเพิ่มขึ้นเพื่อใช้ในการผลิตไฟฟ้าให้สมดุลกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยที่น่ากังวลเกี่ยวกับนโยบายภาครัฐของทั้งจีนและอินโดนีเซีย โดยที่จีนมีนโยบายที่จะลดการนำเข้าถ่านหิน โดยการปิดท่าเรือภาคใต้และภาคตะวันออก และชะลอการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ส่วนที่อินโดนีเซียประเทศใกล้เข้าสู่การเลือกตั้ง รัฐบาลจึงมีนโยบายที่จะรักษาระดับราคาถ่านหินไม่ให้ปรับตัวขึ้นมากนักเพื่อชะลอการเพิ่มของค่าไฟฟ้า
  • ความเห็น : ฝ่ายวิจัยคาดผลประกอบการได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 1Q61 จากผลกระทบของค่าปรับคดีความหงสา 2.7 พันล้านบาทโดยผลประกอบการจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นจากราคาจำหน่ายถ่านหินที่ทรงตัวในระดับสูงเหนือ 100$/Ton สอดคล้องกับที่ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 61 อยู่ 1.28 หมื่นลบ.เติบโต 62%YoY

หุ้นมีข่าว   

·        +MBK จ่อบุ๊กกำไร 240 ล้านบาท ขายหุ้น ROH หมดพอร์ต 27.9 ล้านหุ้น ให้ GRAND มูลค่ารวม 1,144 ล้านบาท ฟากผู้บริหาร GRAND ลั่นซื้อ ROH หวังเติมพอร์ตธุรกิจโรงแรม รองรับกระแสการท่องเที่ยวบูม(ที่มา ข่าวหุ้น)   

·        +GIFT ไฟเขียวซื้อหุ้นคืนจำนวนหุ้น 12 ล้านหุ้นคิดเป็น  2.91% วงเงินไม่เกิน 60 ลบ.

·        ความเห็น คำนวณราคาเฉลี่ยต่อหุ้นขั้นต่ำหุ้นละ 5 บาทสูงกว่าราคาปิดล่าสุดที่ 4.10 บาท

·        ITEL (ราคาปิด 2.82 บาท Bloomberg Consensus 5.70 บาท) ผู้บริหาร ITEL เตรียมเข้าประมูลงาน USO NET (เน็ตชายขอบ) เฟส 2 มูลค่าโครงการ 2 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น 8 สัญญา โดยจะโฟกัสไปยัง 3 สัญญาภาคใต้ มูลค่ารวม 6 พันล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีพื้นที่ในการให้บริการอยู่แล้ว โดยคาดว่าน่าจะเห็นความชัดเจนในอีก 2 เดือนข้างหน้า จากที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการทำประชาพิจารณ์ และช่วงครึ่งปีหลังยังมีการรับรู้รายได้โครงข่ายสายใยแก้วนำแสง และการรับรู้รายได้จาก Backlog อีก 2.46 พันล้านบาท โดยรวมยังคงดเป้าหมายรายได้เติบโต 40% (ที่มา : หนังสือพิมพ์ทันหุ้น)

·        ความเห็น คาดว่ามีโอกาสที่การประมูลโครงการ USO NET จะกลับมามีความคึกคักอีกครั้ง หลังจากที่มีการชะลอการประมูลไปเมื่อช่วงต้นปี อย่างไรก็ตาม ยังแนะนำให้ติดตามการกำหนดรายละเอียดรวมถึงวันประมูลก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน หลังจากที่ราคาหุ้นอ่อนตัวลงมากว่า 40% หลังจากการชะลอจาก กสทช. ซึ่งคาดว่ากรอบเวลาน่าจะชัดเจนราวปลาย 3Q61

·        + SAWAD แจ้งเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในบง.ศรีสวัสดิ์ (BFIT) จากเดิมร้อยละ 36.35 เป็นร้อยละ 45.34 โดยเป็นการทำรายการผ่านกระดานและกระดานรายใหญ่ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ด้าน BFIT แจ้งว่าการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของผู้ถือหุ้นครั้งนี้ไม่มีผลกระทบต่อโครงสร้างการจัดการของบริษัท

·        + GUNKUL คว้างานติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป-ขายไฟฟ้าให้ CPF มูลค่า 1,400 ล้านบาท เป็นโครงการขนาดใหญ่สุดของประเทศไทย หนุนกำลังผลิตไฟฟ้าเพิ่ม พร้อมลุยดีลโรงงานเอกชนติดตั้งแผงเซลล์ไฟฟ้าต่อเนื่อง วางหมากสิ้นปีนี้ กำลังผลิตไฟฟ้าทั้งพลังงานแสงอาทิตย์และลม ชน 583 เมกะวัตต์ (ที่มา ทันหุ้น)

·        +CK เผยกิจการร่วมค้าซีเคซีเอช ได้งานเพิ่มเติมโครงการรถไฟทางคู่ชุมทางจิระ-ขอนแก่น อีก 896 ลบ.

·        + FORTH งานสื่อสารจ่อเพียบ ลุ้นกำไรปี 2561 โตแรง ส่วนรายได้มั่นใจไม่ต่ำกว่า 8 พันล้านบาท ตุนงานในมือ 2.8 พันล้านบาท ทยอยรับรู้ปีนี้ส่วนใหญ่ พร้อมลุยประมูลงานเพิ่มอีก 6-7 พันล้านบาท แถมรับอานิสงส์ FSMART โชว์ฟอร์มเจ๋ง (ที่มา ทันหุ้น)

·        +TTW ส่งบ.ย่อยจัดตั้งบ.ร่วมทุนกับ "Z Corp" เพื่อทำโครงการระบบน้ำประปาในเมียนมา มูลค่าลงทุนราว  486 ลบ.