กรมการค้าต่างประเทศจับมือ 4 ชาติ นำเอสเอ็มอี บุกตลาดมุสลิม

กรมการค้าต่างประเทศจับมือ 4 ชาติ นำเอสเอ็มอี บุกตลาดมุสลิม

กรมการค้าต่างประเทศ จับมือ 4 ชาติ จัดงานแสดงสินค้า IMT-GT & BIMP-EAGA Trade Fair 2018 นำเอสเอ็มอี บุกตลาดมุสลิม พร้อมจับคู่ธุรกิจ คาดสร้างมูลค่าซื้อขายต่อปีไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 2 ก.ค.61 นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดงานแสดงสินค้า IMT-GT & BIMP-EAGA Trade Fair 2018 ครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 19-22 ก.ค. 2561 ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองศิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ภายใต้แนวคิด “The Future of Agricultural Product Innovation and Environment” โดยได้นำผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก(เอสเอ็มอี) จาก 14 จังหวัดภาคใต้ของไทยร่วมกับสินค้าจากผู้ประกอบการอีก 4 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย บรูไนและฟิลิปปินส์ จำนวนรวม 230 คูหา มาจัดแสดง เพื่อเป็นการเปิดตัวและแนะนำสินค้า สร้างโอกาสในการค้าขาย และขยายโอกาสในการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ ทั้งนี้ ในวันเปิดงานวันที่ 20 ก.ค. 2561 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ จะเปิดงานร่วมกับรัฐมนตรีจาก 4 ประเทศ จากนั้น จะมีการหารือระหว่างรัฐมนตรี เพื่อขยายความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนภายใต้กรอบ IMT-GT และ BIMP-EAGA และการจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจ (Business Matching) ระหว่างผู้ประกอบการไทยและผู้ประกอบการจาก 4 ประเทศ

“ตลาดในกลุ่มประเทศดังกล่าวมีประชากรรวมกันกว่า 50 ล้านคน ขณะเดียวกัน ก็จะมีการหารือร่วมกันระหว่าง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทย และรัฐมนตรีจาก 4 ประเทศ เพื่อขยายความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนภายใต้กรอบ IMT-GT และ BIMP-EAGA และการจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจ (Business Matching) ระหว่างผู้ประกอบการไทยจาก 14 จังหวัดภาคใต้ และผู้ประกอบการจาก 4 ประเทศ โดยคาดว่าจะมีการจับคู่ธุรกิจเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 20 คู่ มีมูลค่าซื้อขายทันทีไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท และคาดว่าจะมีมูลค่าซื้อขายภายใน 1 ปี ไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาท” นายอดุลย์ กล่าว

สำหรับสินค้าจากไทยที่จะนำไปร่วมในงานเป็นสินค้าเด่นของแต่ละจังหวัดในกลุ่มอาหาร อาหารแปรรูป สินค้าฮาลาล ของใช้ ของตกแต่งบ้าน ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการนำสินค้ามาเปิดตัวให้เป็นที่รู้จัก แต่ยังเป็นการสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ ที่จะได้สร้างเครือข่าย ทั้งกับผู้ประกอบการในประเทศ และผู้ซื้อ ผู้นำเข้าจากต่างประเทศ ที่ได้มาร่วมงานครั้งนี้ด้วย

นอกจากนี้ยังได้นำสินค้าไฮไลท์ที่มีศักยภาพของไทยไปจัดแสดงด้วย คือ สินค้าเกษตรนวัตกรรม โดยเฉพาะสินค้าที่ผลิตจากข้าว ทั้งขนมขบเคี้ยว อาหารแปรรูปจากข้าว ผลิตภัณฑ์ข้าว น้ำมันรำข้าว เครื่องสำอางทำจากข้าว เป็นต้น ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยสร้างโอกาสในการค้าขาย และสนับสนุนให้สินค้าเกษตรนวัตกรรมของไทยเป็นที่รู้จักและเป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้น

สำหรับการจัดงานครั้งนี้ เป็นการจัดขึ้นครั้งที่ 4 โดยจัดหมุนเวียนกันในประเทศที่เป็นสมาชิก ครั้งแรก จัดที่มาเลเซีย ปี 2555 ครั้งที่ 2 จัดที่ฟิลิปปินส์ ปี 2557 ครั้งที่ 3 จัดที่อินโดนีเซีย ปี 2559 และครั้งที่ 4 จัดที่ประเทศไทย

โดยกรอบ IMT-GT คือ แผนงานพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่ายระหว่างประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย ตั้งขึ้นปี 2536 เพื่อร่วมมือกันในการพัฒนาเศรษฐกิจในอนุภูมิภาค โดยอินโดนีเซียมี 10 จังหวัดทางตอนเหนือ มาเลเซีย 8 รัฐ และไทย 17 จังหวัดภาคใต้ ส่วนกรอบ BIMP-EAGA เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจอาเซียนด้านตะวันออก บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซียและฟิลิปปินส์ ตั้งขึ้นเพื่อร่วมมือด้านการค้า การท่องเที่ยว และการลงทุน ซึ่งไทยไม่ได้อยู่ในกรอบนี้ แต่การร่วมมือกันในการจัดงานแสดงสินค้าครั้งนี้ ทำให้ไทยสามารถเข้ามาเกี่ยวข้อง และสามารถใช้ประโยชน์ในการร่วมมือด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวร่วมกับสมาชิก BIMP-EAGA ได้