ไทยเทค เอ็กซ์โป โชว์สุดยอดนวัตกรรมไทย

ไทยเทค เอ็กซ์โป โชว์สุดยอดนวัตกรรมไทย

“โจอี้” เตียงที่ช่วยให้ผู้สูงอายุลุกนั่งและก้าวลงจากเตียงด้วยตนเอง สั่งปรับเอนและหมุนซ้ายขวาได้ด้วยการกดรีโมท ล่าสุดกำลังพัฒนาแอพพลิเคชั่นเชื่อมต่อกับการวัดชีพจร 1 ใน 5 ไฮไลต์ในไทยเทค เอ็กซ์โป 2018

“โจอี้” เตียงตื่นตัวที่ช่วยให้ผู้สูงอายุลุกนั่งและก้าวลงจากเตียงด้วยตนเองอย่างมั่นใจและปลอดภัย สามารถสั่งปรับเอนและหมุนซ้ายขวาได้ด้วยการกดรีโมท ล่าสุดกำลังพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่ทำงานเชื่อมต่อ “โจอี้” กับการวัดชีพจร รวมถึงติดตามอิริยาบถของผู้ใช้เตียง เป็น 1 ใน 5 สิ่งประดิษฐ์ไฮไลต์ที่จะร่วมจัดแสดงในงาน “ไทยเทค เอ็กซ์โป 2018

ไทยเทค เอ็กซ์โป อีเวนท์ใหญ่ประจำปีของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) ริเริ่มครั้งแรกเมื่อปี 2560 ได้รวม 3 งานของกระทรวงทั้งงานไทยแลนด์ เทคโชว์ งานเทคโนมาร์ทและงานนาสด้า อินเวสเตอร์ เดย์ นำเสนอ ผลงานวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมจาก 15 หน่วยงานในสังกัด พร้อมเปิดให้ภาคเอกชนที่สนใจนำมาต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์ ระหว่างวันที่ 4-8 ก.ค.นี้ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา

5 ผลงานวิจัยน่าลงทุน

นอกจากเตียงตื่นตัวสำหรับผู้สูงอายุแล้ว อีก 4 ผลงานเด่นจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้แก่ “อะควาโกรว์” ระบบอัจฉริยะช่วยเกษตรกรติดตามดูแลคุณภาพน้ำในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเศรษฐกิจ ประกอบด้วย 3 เทคโนโลยีหลัก คือระบบบริหารจัดการคุณภาพน้ำ อุปกรณ์ตรวจวัดปริมาณสารเคมีและแบคทีเรียในน้ำ

ระบบจะบันทึกและรวบรวมข้อมูลทั้ง 3 ด้านแบบเรียลไทม์ผ่านระบบไอโอที ทำให้สามารถนำข้อมูลที่บันทึกมาวิเคราะห์แบบครบวงจรรายแรกของประเทศ เพื่อแจ้งเตือนพร้อมทั้งให้คำแนะนำการปรับสภาพบ่อเลี้ยง ขณะที่เกษตรกรผู้ใช้งานสามารถดูข้อมูลและบริหารจัดการฟาร์มได้จากทุกที่ทุกเวลาผ่านสมาร์ทโฟน

ผลงานเด่นถัดมา “ดรีมเดอร์มา” เป็นสารออกฤทธิ์สำคัญในผลิตภัณฑ์เวชสำอางชะลอวัย บรรจุในนวัตกรรมไมโครแคปซูลที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการออกฤทธิ์ของโมเลกุล ลดอาการแพ้และซึมเข้าสู่ผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ เวชสำอางชะลอวัยมีมูลค่าทางการตลาดมากกว่า 1.8 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2560 จึงเป็นงานวิจัยที่มีโอกาสทางการตลาดอย่างมาก

“พีลิกนินแคร์” จากกากอ้อยสู่สารต้านเชื้อ เป็นการนำเทคโนโลยีสกัดลิกนิน ซึ่งเป็นพอลิเมอร์ธรรมชาติมีอยู่ในพืชทุกชนิด มีคุณสมบัติยับยั้งการเจริญเติบโตและทำลายเชื้อแบคทีเรีย รา ที่เป็นสาเหตุของโรคผิวหนัง โรคระบบทางเดินหายใจเเละระบบทางเดินอาหาร มาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกากอ้อย ซึ่งจะอยู่ในรูปผงหรือสารละลายที่นำไปใช้ฉีดพ่น ชุบ เคลือบตลอดจนผสมในสิ่งทอ ขณะนี้งานวิจัยนี้อยู่ระหว่างการขอการคุ้มครองสิทธิเทคโนโลยีการผลิต

“วิปโปร” ชีวภัณฑ์กำจัดแมลงศัตรูพืช พัฒนามาจากโปรตีน Vip3A ที่พบในบีที (Bacillus thuringiensis) สายพันธุ์ที่ออกฤทธิ์เฉพาะหนอนผีเสื้อและหนอนผีเสื้อกลางคืน ที่สำคัญมีความปลอดภัยเพราะสลายตัวได้ตามธรรมชาติ ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ สัตว์ และสิ่งแวดล้อม ช่วยเกษตรกรลดต้นทุนการนำเข้าผลิตภัณฑ์กำจัดแมลง ลดการใช้สารเคมีอันตราย ผลผลิตที่ได้ไม่มีสารเคมีตกค้าง

ส่วนสถานะการพัฒนาผลิตภัณฑ์ขณะนี้มีต้นแบบระดับห้องปฏิบัติการและระดับก่อนโรงงานต้นแบบ (Pre-pilot scale) รอผู้ร่วมลงทุนเพื่อพัฒนาเป็นระดับโรงงานต้นแบบและการผลิตเชิงพาณิชย์

10 เทคโนโลยีเปลี่ยนชีวิต

จุฬารัตน์ ตันประเสริฐ รองผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า ภายในงานยังมีการบรรยายพิเศษโดย นายณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สวทช. แนะนำ10 เทคโนโลยีที่น่าจับตามอง ซึ่งจะส่งผลกระทบในช่วงเวลา 5-10 ปี เป็นประโยชน์สำหรับนักลงทุนที่จะทำความเข้าใจทิศทางและแนวโน้มเทคโนโลยีใหม่ เพื่อเลือกพิจารณาลงทุนให้เหมาะสม เพราะเทคโนโลยีเหล่านี้อาจจะเข้าไปเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจหลายประเภทที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน ข้อมูลเหล่านี้ยังสำคัญสำหรับบุคคลทั่วไปเพื่อเตรียมรับมือเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ ผลงานจัดแสดงในงานมีกว่า 300 ชิ้น แบ่งเป็นเทคโนโลยีราคาเดียว 30,000 บาท 57 ผลงาน และเทคโนโลยีเจรจาเงื่อนไข 237 ผลงานเหมาะกับบริษัทขนาดใหญ่ และผลงานเด่น สวทช. 5 ผลงานที่จัดแสดงในรูปแบบตลาดเทคโนโลยีที่ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงได้ง่าย เพื่อช่วยผลักดันงานวิจัยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมสู่การใช้ประโยชน์และสร้างธุรกิจเทคโนโลยีใหม่ๆ

นอกจากนี้ยังมีการเสวนาหลายหัวข้อ อาทิ เทคโนโลยีพลิกเกษตรไทยเป็นเกษตรอัจฉริยะ เทคโนโลยีอาหารเพื่ออนาคต เพื่อเปิดมุมมองต่อยอดธุรกิจ และเตรียมความพร้อมกับเทคโนโลยีก้าวหน้า ผ่านมุมมองของผู้บริหารภาคเอกชนที่จะมาแลกเปลี่ยนมุมมอง ประสบการณ์ ภายใต้แนวคิดเทคโนโลยีพร้อมใช้ พัฒนาไทยยั่งยืน คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 1.3 หมื่นคนภายในระยะเวลา 5 วัน