สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์วันที่ 25-29 มิถุนายน 2561

สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์วันที่ 25-29 มิถุนายน 2561

“เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 8 เดือน ขณะที่ ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดสัปดาห์นี้ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน”

สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท

-  เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 8 เดือนที่ 33.22 บาทต่อดอลลาร์ โดยการอ่อนค่าของเงินบาทเป็นทิศทางที่สอดคล้องกับเงินหยวน และสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ตลอดจนการปรับลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงของนักลงทุนในภาพรวม ท่ามกลางความกังวลต่อประเด็นที่ยืดเยื้อของข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะในเรื่องมาตรการกีดกันการค้าและการลงทุน นอกจากนี้ เงินบาทยังเผชิญแรงกดดันในระหว่างสัปดาห์จากแรงขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติด้วยเช่นกัน

-  ในวันศุกร์ (29 มิ.ย.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.12 เทียบกับ 32.92 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (22 มิ.ย.)   

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (2-6 ก.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 32.80-33.40 บาทต่อดอลลาร์ โดยจุดสนใจของตลาดน่าจะอยู่ที่กระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ตลอดจนเครื่องชี้ตลาดแรงงานอื่นๆ อาทิ อัตราการว่างงาน ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน และค่าจ้าง รวมถึงดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนมิ.ย. ยอดสั่งซื้อสินค้าภาคโรงงาน และรายจ่ายเพื่อการก่อสร้าง เดือนพ.ค. อนึ่ง ตลาดการเงินสหรัฐฯ จะปิดทำการในช่วงกลางสัปดาห์เนื่องในวัน Independence Day

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย

-  ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดสัปดาห์นี้ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน ที่ 1,595.58 จุด ซึ่งลดลง 2.41% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่ มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันปรับลดลง 13.55% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 53,313.34 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ปิดที่ 416.57 จุด ลดลง 5.28% จากสัปดาห์ก่อน

-  ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงเกือบตลอดสัปดาห์ แม้ว่าจะมีปัจจัยหนุนในหุ้นพลังงาน จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลก แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะชดเชยแรงกดดันจากแรงขายสุทธิหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติในช่วงต้น-กลางสัปดาห์ ท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์สงครามการค้าโลก โดยเฉพาะการตอบโต้ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ทั้งนี้ แม้นักลงทุนต่างชาติจะกลับเข้าซื้อสุทธิหุ้นไทยอีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์ แต่ตลาดหุ้นไทยก็ยังคงปิดในแดนลบ สวนทางตลาดหุ้นในภูมิภาค

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (2-6 ก.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,575 และ 1,550 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,610 และ 1,625 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ สถานการณ์การตอบโต้ทางการค้าระหว่างประเทศ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อื่นๆ ได้แก่ รายงานการประชุมนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และดัชนี ISM ภาคการผลิตเดือนมิ.ย. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ดัชนี PMI Composite ของญี่ปุ่นและประเทศในยุโรป และดัชนี PMI ภาคการผลิตของยูโรโซน