มธ.ส่งทีมวิศวกรใช้ 'จีพีเอส' ร่วมค้นหา 13 ชีวิตติดถ้ำ

เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.61 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญด้านระบบสารสนเทศและวิศวกรรมโยธา ประกอบด้วย รศ.ดร.สุเพชร จิรขจรกุล รองคณบดีฝ่ายบริหารและการคลัง ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบสารสนเทศ (Geomatics) อาจารย์ณัฐพล จันทร์แก้ว และผศ.ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ใช้ “จีพีเอส” ร่วมค้นหาเยาวชนนักฟุตบอลทีม “หมูป่าอะคาเดมีแม่สาย” พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ณ วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ผ่านการเดินเท้าค้นหาตามพิกัดภูมิศาสตร์ของแนวพื้นที่วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อีกทั้งคำนวณกำลังการสูบน้ำเพื่อให้ได้ระดับน้ำที่เหมาะสม ทั้งนี้ เพื่อให้หน่วยซีลและกำลังทหาร สามารถเดินทางเข้าไปช่วยเหลือเยาวชนทั้งหมดได้อย่างปลอดภัย

รศ.ดร.สมชาย ชคตระการ คณบดี คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การระดมกำลังค้นหาเยาวชนนักฟุตบอลและโค้ช ทีม “หมูป่าอะคาเดมีแม่สาย” จำนวน 13 คน ซึ่งติดอยู่ในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย นับตั้งแต่วันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา ทางหน่วยซีล ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการค้นหาอย่างต่อเนื่อง

รศ.ดร.สมชาย กล่าวต่อว่า คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มธ. จึงได้ร่วมส่งทีมผู้เชี่ยวชาญด้านพิกัดทางภูมิศาสตร์และวิศวกรรมโยธา ซึ่งเป็นอาจารย์ประจำสาขาวิชาเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนายั่งยืน ทั้งหมด 3 คน เข้าไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ภายในถ้ำดังกล่าว ประกอบด้วย รศ.ดร.สุเพชร จิรขจรกุล รองคณบดีฝ่ายบริหารและการคลัง ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบสารสนเทศ (Geomatics) ทำหน้าที่ค้นหาพิกัดทางภูมิศาสตร์ของถ้ำหลวงจากดาวเทียม ณ พื้นที่กรุงเทพฯ ขณะที่อาจารย์ณัฐพล จันทร์แก้ว และผศ.ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) จะทำการเดินเท้าค้นหาตามพิกัดจีพีเอส พร้อมคำนวณกำลังการสูบน้ำเพื่อให้ได้ระดับน้ำที่เหมาะสม ทั้งนี้ก็เพื่อให้หน่วยซีลและกำลังทหาร สามารถเดินทางเข้าไปช่วยเหลือเยาวชนทั้งหมดได้อย่างปลอดภัย

ทั้งนี้ ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ และนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มธ. รวมถึงประชาชนคนไทยทุกคน ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง สามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างราบรื่นและช่วยเหลือเยาวชนทั้งหมด 13 คน ให้สามารถเดินทางกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย