กบข. แนะสมาชิกเปลี่ยนแผนลงทุนรับภาวะเศรษฐกิจผันผวน

กบข. แนะสมาชิกเปลี่ยนแผนลงทุนรับภาวะเศรษฐกิจผันผวน

กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ แนะสมาชิกที่มีความกังวลใจต่อภาวะเศรษฐกิจที่กำลังผันผวนอยู่ในขณะนี้ สามารถปรับเปลี่ยนแผนลงทุนไปเป็นแผนที่มีความผันผวนต่ำ ความเสี่ยงต่ำ

เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.61 นายวิทัย รัตนากร เลขาธิการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กล่าวว่านับแต่ต้นปีที่ผ่านมาภาวะเศรษฐกิจ และการลงทุนมีความผันผวนต่อเนื่องหลังจากเกิดความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองประเทศอภิมหาอำนาจยักษ์ใหญ่จีน และสหรัฐตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา นับถึงวันนี้ยังไม่มีใครสามารถประเมินได้ว่าจะจบลงเมื่อไรและอย่างไร เมื่อประกอบกับแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่มากกว่าตลาดคาดการณ์ทำให้ตลาดเกิดการเทขายสินทรัพย์เสี่ยงของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาซึ่งในนั้นก็รวมประเทศไทยด้วย ทำให้ตลาดหุ้นไทยในช่วงเดือนมิถุนายนลดลงประมาณ 5.3% ตลาดเกิดใหม่ลดลงประมาณ 4.6%

นายวิทัย กล่าวต่อว่า ในส่วนของ กบข. ได้ปรับกลยุทธ์ลงทุนระยะสั้นด้วยการลดสัดส่วนสินทรัพย์เสี่ยง และลดอายุพันธบัตรเหลือประมาณ 2 ปี เพื่อลดผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ล่วงหน้าแล้วบางส่วน แต่ก็คาดการณ์ว่าสถานการณ์ผันผวนจะคงต่อเนื่องไปอีกระยะ ส่งผลให้แนวโน้มผลตอบแทนการลงทุน กบข. ในระยะสั้นอาจไม่ดีนัก แม้ กบข. จะเป็นกองทุนระยะยาว สมาชิกจะนำเงินออกจาก กบข. ได้ก็ต่อเมื่อออกจากราชการหรือเกษียณอายุราชการเท่านั้น แต่สำหรับสมาชิกที่มีความกังวลใจต่อภาวะเศรษฐกิจที่กำลังผันผวนอยู่ในขณะนี้ สามารถปรับเปลี่ยนแผนลงทุนไปเป็นแผนที่มีความผันผวนต่ำ ความเสี่ยงต่ำ เช่น แผนตลาดเงิน หรือแผนตราสารหนี้ ได้ โดยสมาชิกสามารถดำเนินการเปลี่ยนแผนลงทุนได้ด้วยตนเองผ่าน GPF web service, Personal web, GPF Mobile Application สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ Call center กบข. 1179 กด 6

เกี่ยวกับ กบข. กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) จัดตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ. กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2539 เพื่อเป็นหลักประกันการจ่ายบำเหน็จบำนาญและให้ประโยชน์ตอบแทนการรับราชการแก่ข้าราชการเมื่อออกจากราชการ ส่งเสริมการออมทรัพย์ของสมาชิก และจัดสวัสดิการและสิทธิประโยชน์อื่นให้แก่สมาชิก กบข. มีสถานะเป็นองค์กรของรัฐจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายเฉพาะไม่มีสถานะเป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ มีคณะกรรมการ กบข. เป็นผู้กำหนดนโยบาย ปัจจุบัน กบข. มีสมาชิกประมาณ 1 ล้านคน มีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิประมาณ 865,288 ล้านบาท (ข้อมูล ณ 31 พ.ค. 2561)