เอชพีปรับโฉมธุรกิจมุ่งบริการโซลูชั่น

นายปวิณ วรพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอชพี อิงค์ ประเทศไทย กล่าวว่า ทิศทางธุรกิจของเอชพีในประเทศไทยปีนี้มีแผนนำสินค้าใหม่เข้ามาเปิดตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันโครงสร้างธุรกิจแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักคือคอมพิวติ้งและเครื่องพิมพ์ จุดยืนบริษัทไม่ได้ขายเพียงฮาร์ดแวร์แต่มุ่งเสนอเป็นโซลูชั่นแบบครบวงจร

นอกจากนี้ มีโมเดลธุรกิจใหม่ๆ เช่นให้เช่าซื้อ เช่าใช้ สอดคล้องไปกับแนวทางการลงทุนของลูกค้าที่ให้คำสำคัญกับความคุ้มค่าการลงทุน มีการร้องขอการบริการหลังการขายที่มากขึ้น ขณะเดียวกันมองถึงการนำไอทีมาช่วยขับเคลื่อนธุรกิจในภาพรวม ที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้านิยมเช่าใช้มากที่สุดคือคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ รองลงมาคือโน๊ตบุ๊ค

เขากล่าวว่า ขณะนี้ผู้เล่นระดับโลกในตลาดพีซีเหลืออยู่เพียงไม่กี่รายที่อยู่รอดในตลาด ดังนั้นเป็นโอกาสของเอชพีที่จะนำเสนอสินค้าออกสู่ตลาดไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล(พีซี) เวิร์คสเตชั่น ไคลเอนด์ พีโอเอส และเครื่องพิมพ์ที่แนวโน้มยังคงเติบโตได้ดีต่อเนื่อง โดยจุดต่างสำคัญบริษัทสามารถให้บริการได้แบบครบวงจรทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ภายใต้โมเดลแอสอะเซอร์วิสในทุกผลิตภัณฑ์

นอกจากนี้จุดแข็งยังมาจากมีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญ เข้าใจถึงความต้องการของตลาด มีทีมงานติดตั้งระบบที่สามารถช่วยลูกค้าวางเฟรมเวิร์ก วางแผนการลงทุน รวมถึงการบริการด้านโซลูชั่นที่ตอบโจทย์การใช้งาน มีระบบบริหารจัดการและรักษาความปลอดภัยที่รัดกุม

“หลายปีที่ผ่านมาตลาดไอทีทั่วโลกรวมถึงในไทยเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เทรนด์ที่น่าสนใจเข้าสู่ยุค “โปรซูมเมอร์” ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ต้องสามารถใช้งานได้ทั้งส่วนบุคคลและภายในองค์กร สำคัญการออกแบบต้องสวย บางเบา มีความปลอดภัยสูง”

สำหรับกลยุทธ์ของบริษัท เน้นเจาะไปเป็นรายเซ็กเมนท์มากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตได้ดี เช่น คอมพิวเตอร์สำหรับเกมเมอร์ ผลิตภัณฑ์ทูอินวัน เครื่องพิมพ์กลุ่มอิงค์แทงก์ และกลุ่มเครื่องพิมพ์ที่เหมาะกับการใช้งานเชิงไลฟ์สไตล์ ส่วนตลาดองค์กรเน้นขายเชิงโซลูชั่น ตอบโจทย์องค์กรี่มุ่งสู่ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น และมีการใช้งานดาต้าเพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลมากขึ้น

อย่างไรก็ดี แม้ภาวะเศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน ทว่าเอชพียังเชื่อมั่นว่าจะสามารถรักษาการเติบโตด้านรายได้ได้ดีในหลายๆ กลุ่มสินค้า และจะทำได้ดีกว่าตลาดรวม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มพีซี ธุรกิจเครื่องพิมพ์ทั้งสำหรับองค์กรและคอนซูเมอร์ อีกส่วนสำคัญมีรายได้จากการให้บริการหลังการขาย

นอกจากนี้ ในภาพรวมนโยบายรัฐอย่างไทยแลนด์ 4.0 ส่งผลบวกให้การลงทุนไอทีในประเทศไทยมีความคึกคักมากขึ้น เท่าที่พบบางส่วนเกิดการตระหนักรู้ มีการวางแผนนำไอทีมาใช้งานอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจ ลดค่าใช้จ่ายภายในองค์กร หนึ่งในกลุ่มที่จะเพิ่มโอกาสให้กับเอชพีซึ่งคาดว่าจะเกิดการใช้จ่ายไอทีเพิ่มมากขึ้นคือภาคการผลิต

ด้านการใช้จ่ายของกลุ่มลูกค้าคอนซูเมอร์ ขณะนี้กำลังซื้อยังคงอ่อนไหวง่ายไปตามปัจจัยแวดล้อม แต่ทั้งนี้โอกาสทางการตลาดเพิ่มมากขึ้นจากการเข้าถึงออนไลน์ อีคอมเมิร์ซ การมาของออมนิแชนแนล รวมถึงโมเดลออนไลน์ทูออฟไลน์(โอทูโอ)

ส่วนของเอชพีปรับกลยุทธ์โดยการเน้นกลุ่มที่เติบโตดีเช่น คอมพิวเตอร์สำหรับการเล่นเกม ที่รองรับเทคโนโลยีเวอร์ชวลเรียลริตี้(วีอาร์) มีการออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งานเครื่องตรงกับการใช้งานจริง ขณะนี้สินค้าเกี่ยวกับเกมสามารถเติบโตได้ทั้งอีโคซิสเต็มส์ เอชพีมีทั้งพีซี เมาส์ คีบอร์ด และหูฟัง

ปัจจุบัน ตลาดไอทีรวมถึงคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในประเทศไทยมีการแข่งขันที่รุนแรงทุกไตรมาส ผู้เล่นที่มีความเคลื่อนไหวต่อเนื่องคือ เลอโนโว เอเซอร์ เอซุส เดลล์ รวมถึงเอชพี