บันทึกการเดินทางของจิตรกร

บันทึกการเดินทางของจิตรกร

กวีทรรศน์ คัดสรรโดย "เสรี ทัศนศิลป์" ..บันทึกการเดินทางของจิตรกร : การเขียนจิตรกรรมสีน้ำ 6 ชิ้นทิวทัศน์เมืองซาปา

 

ข้าพเจ้าเรียนรู้การเขียนสีน้ำ

บนกระดาษเยื่อไผ่จากลำปาง

ขณะเบื้องหน้าขุนเขาเมืองซาปาทมื่นรอ

 

ชิ้นที่หนึ่ง

 

เหนือระเบียงร้านค้าในหุบเขาหมู่บ้านซินจ่าย

หมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้งอันพิสุทธิ์

จิตรกรมองทิวขุนเขาซับซ้อนเบื้องหน้า

ทิวท้องนาขั้นบันไดไต่ตามทอดยาวลดหลั่น

เขาจรดพู่กันจุ่มน้ำ แตะสีปาดป้ายท้องฟ้าและสายหมอกอย่างย่ามใจ

ปรากฏเกล็ดประกายจากผิวหยาบของกระดาษสา

จากแรกกระทบการปาดและใจที่ลำพอง

ดั่งกระดาษมิยอมรับรอยทีแปรงและการสำแดงสีสัน

จิตรกรจุ่มน้ำอัดสีเพิ่มดั่งการควบคุมม้าพยศ

เมื่อปาดป้ายอย่างย่ามใจเต็มพื้นภาพ

ฉับพลันกระดาษสาก็ดูดกลืนสีสันให้ซีดหายไป

อย่างลำพองและประกาศชัยชนะ

 

2_7

ชิ้นที่สอง

 

หมู่บ้านไม้หลังคาสังกะสี

เปอร์ฯถนนทอดยาวลงไปเบื้องล่าง

ไกลออกไปแนวไม้และขุนเขาซับซ้อน

เบื้องหน้ากระดาษ

เขาจับจังหวะรูปทรงง่ายๆของบ้านเรือน

ป้ายลงด้วยพู่กันขนาดกลางช้าๆ แผ่วเบา

หล่อเลี้ยงสีและน้ำให้ซึมซาบลงบนผิวกระดาษ

บางจังหวะกระดาษเพลินสัมผัสก็กระชากพู่กัน

ให้ปรากฏเกล็ดขาว บนพื้นผิวหลังคาสังกะสีและแผ่นไม้

กดรอยทีแปรงสากๆ เป็นพื้นดิน โขดหินและถนน

จึงใช้น้ำชุ่มสร้างความชื้นให้กระดาษอุ่นเย็น

หว่านสีของขุนเขา พรรณไม้ลงไปให้ซึมซับเข้าหากัน

พลางสอดแทรกสีแสงและสายหมอกลงเติม

จากนั้นแตะสีระบายต้นไม้โบราณแห่งซาปา

ป้ายปาดให้ความลำพองแห่งกระดาษและตัวเอง

ไปปรากฏอยู่บนผิวไม้อันเก่าคร่ำที่อ่อนน้อมนั้น

 

ชิ้นที่สามและสี่

 

จิตรกรสาวน้อย

เธอจับพู่กัน มองมาอย่างไม่แนใจ

ยิ้มอย่างอายๆ

จึงแตะสีเขียนรูปบ้านหลายหลัง

ถัดไปเขียนขุนเขาคู่ และข้างหน้าเป็นถนน

เหมือนไร้ผลกระทบจากกระดาษสา

เธอจึงแตะสี จุ่มน้ำระบายสีของบ้าน เส้นของถนน

มือเธอกดแต้มสีลงไปอย่างบรรจง

และไร้ปฏิกิริยาใดจากกระดาษสาเยื่อไผ่จากลำปาง

,,,,,,,,

เธอมองมาอีกครั้ง จิตรกรพยักหน้า

เธอจุ่มสี Sennelier แตะน้ำแล้ววาดภาพ

รูปนาขั้นบันไดเรียงเป็นชั้นๆ ในขุนเขาคู่

มีสายน้ำไหลผ่านด้านล่าง

เธอผสมสีเขียวสดใสที่สุดในจานสี

ระบายลงไปอย่างเพลิดเพลิน

และมีชีวิตชีวา

ดั่งกระดาษสาเยื่อไผ่แห่งลำปาง

รับรู้สายโลหิตพิสุทธิ์แห่งเมืองซาปา

 

ชิ้นที่ห้า

เธอเพลิดเพลินกับบ้านเก่า ท้องนาขั้นบันได

จึงวาดกลีบดอกไม้สี่กลีบ

ประดับบนก้านกิ่งใบไม้สองใบ

ด้วยความคุ้นชินกับกระดาษสาและสีน้ำ

เธอมองมาแล้วยิ้มให้จิตรกร

พลางวางพู่กันลงยิ้มอย่างอิ่มอก อิ่มใจ

และจากไปร่วมกลุ่มเพื่อนของเธอ

 

ชื่นที่หก

เขายินเสียงสายลม สัมผัสให้ผิวหน้าผะผ่าว

เหมือนทุกสรรพสีซึมซับเข้าไปในตัวตน

ที่เปิดโปร่งรับวิถี รอยยิ้ม และจิตรกรสาวน้อย

เขาจับพู่กันแตะน้ำจุ่มสีพร้อมกันหลายสี

ปาดป้ายลงบนกระดาษสาด้วยสัมผัสแผ่วเบาแต่หนักแน่น

กระดาษสาซึมซับสีและน้ำดั่งร่วมกันร่ายรำ

ภาพทิวทัศน์แห่งเมืองซาปา ปรากฏจากไกลมาจนระยะใกล้

บนกระดาษสาเยื่อไผ่ แห่งเมืองลำปาง

ในสีสันรูปรอยแห่งวิถีท่ามหุบเขาห่างไกล

การเดินทางไกลแท้แล้วคือการเดินเข้าไปในตัวตน...ฯ

 

ชูเกียรติ สุทิน