นายกฯ เผย ร.10 รับสั่ง จัดพระราชพิธีราชาภิเษก ไม่สิ้นเปลือง

เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.61 เมื่อช่วงค่ำ ที่กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ได้พบปะชุมชนไทยในสหราชอาณาจักร โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ขอขอบคุณทุกคนที่มา ต้อนรับตนและคณะในครั้งนี้ได้มีการให้กำลังใจตนตั้งแต่มาถึง แม้จะมีบางส่วนไม่เห็นด้วยก็ตาม แต่ตนถือว่าเขาเป็นคนไทย จะเห็นไม่เหมือนเราไม่เป็นไรเราอย่าไปมีปัญหาซึ่งกันและกัน จะทำให้เสียชื่อเสียง เพราะเป็นคนไทยโดยกำเนิดทั้งสิ้น ตนไม่ได้โกรธเคืองอะไรเขามีโอกาสก็ฝากบอกด้วยว่าตนทำเพื่อประเทศ

นายกฯ กล่าวว่า นี่เป็นการเยือน 2 ประเทศในยุโรปครั้งแรก ในรอบ 4 ปี ที่ผ่านมาเราเข้าใจดีถึงปัญหาทางการเมืองของเขาแต่วันนี้เขายินดีปรับมติของอียู อังกฤษและฝรั่งเศส ก็ช่วยเราโดยการเพิ่มระดับความร่วมมือให้มากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน เราก็ดำเนินการตามโรดแม็พเพื่อไปสู่การเลือกตั้งในต้นปี 62 เป็นไปตามกฎหมายทุกประการ ต้องเดินหน้าตามนั้น ก็แล้วแต่ประชาชนในประเทศจะมีความรู้สึกอย่างไร

ทั้งนี้ เรายังมีเวลาเพียงพอจะทำทุกอย่างไม่ให้ไปสู่เหตุการณ์เดิมๆ ได้อีกมีหลายวิธีการนายกฯ กล่าวว่า ตนได้หารือในทางการเมืองกับผู้นำทางการเมืองของอังกฤษซึ่งอังกฤษมีสองสภาเพื่อถ่วงดุลอำนาจกัน ไม่เช่นนั้นคล้อยตามกันไปหมดซึ่งประเทศไทยตนว่าตนก็ใช้ได้ คล้ายๆ อังกฤษ เป็นเจ้าแห่งประชาธิปไตย ทั้งนี้ อังกฤษไม่มีรัฐธรรมนูญสักฉบับ แต่ของเรามีมาแล้ว 20 ฉบับ แต่เขาเจริญได้ขนาดนี้ เพราะฉะนั้น สิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่รัฐธรรมนูญ สิ่งสำคัญคือหลักคิด วิธีการจะร่วมมือกันอย่างไร ไม่ใช่เอารัฐธรรมนูญมาทะเลาะเบาะแว้งกันตนได้บอกกับเขาว่าวันนี้เรามีสองสภาเหมือนกัน โดยส.ว.5 ปีแรกนั้น เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง จึงมีการแต่งตั้งคัดสรร ไม่ใช่เลือกตั้ง เขาบอกก็ดีเหมือนของเขา ตนก็บอกว่าเห็นตัวอย่างของอังกฤษไม่เช่นนั้นผลประโยชน์ทับซ้อนจะเกิดขึ้น ดังนั้น แค่ 5 ปีเท่านั้น จากนั้นถ้ามันดีขึ้นก็ค่อยๆ ถ่ายออกไป เลือกตั้งเข้ามาทดแทน ก็จะเป็นอย่างที่เขาต้องการ บ้านเมืองมันต้องตั้งหลักให้ได้ 5 ปีข้างหน้านี้ รัฐบาลหน้ามันควรจะอยู่ให้ได้ เพราะทุกรัฐบาลที่ผ่านมาไม่มีใครอยู่นาน 2 ปีไปแล้วนี่คือความไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองของเรา ทำให้ประเทศหยุดชะงักในการพัฒนา

“หลายคนฟังบ้างไม่ฟังบ้าง ฟังผมพูดซักนิดก็ยังดี หรือไม่ฟังก็อ่านหนังสือพิมพ์แต่อย่าไปอ่านในโซเชียลที่มันด่าผมเยอะแล้วกัน ยังไงก็ไม่เคยชมผมอยู่แล้วตอนแรกผมโกรธ เพราะผมเป็นทหารใครว่าใครอะไรมันศักดิ์ศรีวันนี้ผมก็ถือว่าผมมาเป็นนายกรัฐมนตรีโดยเหตุผลของผมเอง ไม่มีใครเขาเลือกผม แต่ผมก็ต้องทำ แต่ขออย่างหนึ่งเกียรติยศผมมี เพราะฉะนั้น ผมไม่เคยทำความเลวร้ายอย่างที่เขาทำมาอย่ามามองผมแบบเดียวกัน มันไม่ใช่ แต่วันนี้ผมทำใจได้แล้ว ไม่โกรธหรอก” นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการเมืองปีหน้าเลือกตั้ง กุมภาพันธ์ 2562 น่าจะเหมาะสม เพราะมันอยู่ในห้วงเวลานี้ ต้องเข้าใจว่าเมื่อมีรัฐธรรมนูญแล้ว เวลาจากนี้จะเท่าไหร่ อย่างตอนนี้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งส.ส.-ส.ว.เสร็จแล้ว รอโปรดเกล้าฯ ใน 90 วัน เมื่อโปรดเกล้าฯ แล้ว ก็นับไปอีก 90 วันก่อนกฎหมายจะบังคับใช้ เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้มีการทำไพรมารีโหวต และการแบ่งเขตเลือกตั้งซึ่งต้องใช้เวลา รวมถึงการให้หาสมาชิกประชุมสมาชิกพรรคต่างๆ จะได้บอกไม่ได้ว่าทำไม่ทัน และยังมีการเรียกร้องให้ปลดล็อกคำสั่งคสช. โดยเฉพาะห้ามชุมนุมเกิน 5 คน ถ้าเลิกอันนี้เมื่อไหร่เหมือนเดิมทะเลาะกันเหมือนเดิม นี่คือการเมืองไทย มันแก้ยังไม่ได้ตอนนี้ เพราะฉะนั้น ถึงเวลาก็จะผ่อนผันให้ในบางเรื่องให้ประชุมพรรคได้ อะไรได้ แต่อย่าออกมาด่ากันบนถนนหรือเคลื่อนไหว ตนไม่ให้ นี่คือหลักการของตน และจะคอยดูเมื่อปลดล็อกขั้นที่ 1 และ2 จะเกิดอะไรขึ้น

“ระหว่างนี้มีพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ยังไม่ได้จัด ท่านทรงดูสถานการณ์บ้านเมืองสงบเรียบร้อยท่านก็ยินดีที่จะให้ครบตามจารีตประเพณี ท่านรับสั่งว่าอย่างประหยัดนะ อย่าให้มันสิ้นเปลืองขอให้ครบจารีตประเพณีเท่านั้น แล้วท่านก็เป็นกำลังใจให้รัฐบาลในการทำตรงนี้ให้เรียบร้อย และในสัปดาห์หน้านายกฯ และครม.ทุกคนต้องไปทำจิตอาสาขุดลอกคูคลองด้วย ผมต้องทำเพื่อสร้างความร่วมมือตามแนวพระราชดำริของพระองค์ท่าน” นายกฯ กล่าว