“พล.อ.สุรศักดิ์” ย้ำ 20 ปี ต้องเพิ่มป่าสีเขียวให้ถึง 155 ล้านไร่ ยัน จนท. ป่าไม้มีอำนาจเพียงพอแล้ว
เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน ว่า วันนี้เป็นการประชุมครั้งแรก พูดคุยในเรื่องกว้างๆเพื่อนำไปสู่การกำหนดนโยบายในอนาคต ที่ผ่านมาตั้งแต่รัฐบาลนี้เข้ามาก็ตั้งคณะกรรมการระดับชาติหลายคณะ เพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วนไปบ้างแล้ว เช่น คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) คณะกรรมการนโยบายจัดการแร่แห่งชาติ (คนร.) รวมถึงคณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ ซึ่งคณะทำงานเหล่านี้ทำงานครอบคลุมเรื่องป่าไม้ด้วย โดยผลการทำงานเป็นไปด้วยดีตามลำดับ ดังนั้น คณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติชุดนี้จะกำหนดทิศทางป่าไม้ในอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งจะต้องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติที่แม้ว่ายังไม่มีการประกาศใช้อย่างเป็นทางการ แต่ในเรื่องป่าไม้มีการกำหนดไว้กว้างๆว่า ในปี 2580 คืออีก 20 ปีข้างหน้า ประเทศไทยควรมีป่าไม้พื้นที่สีเขียวไม่น้อยกว่า 55 เปอร์เซ็นต์ เพื่อคนไทยในอีก 20 ปีข้างหน้าจะได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีป่าไม้สมบูรณ์
พล.อ.สุรศักดิ์กล่าวต่อไปว่า วันนี้พื้นที่ทั้งหมดในประเทศไทย 323 ล้านไร่ แต่มีพื้นที่ป่าสมบูรณ์ 102.4 ล้านไร่ หรือคิดเป็น 32 เปอร์เซ็นต์ การจะเพิ่มพื้นที่ป่าให้ถึง 155 ล้านไร่ในอีก 20 ปีข้างหน้าก็ต้องมีขั้นตอนการดำเนินการ พูดกว้างๆคือ จะบริหารจัดการป่าไม้เพื่อการอนุรักษ์อย่างเข้มข้น ปกป้องคุ้มครองป่าที่มีอยู่ และส่งเสริมการเพิ่มพื้นที่ป่าในภาคป่าชุมชน ป่าเศรษฐกิจ โดยล่าสุด มีแนวคิดแก้ไขกฎหมายมาตรา 7 พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 คือการส่งเสริมปลูกไม้มีค่าในที่ดินกรรมสิทธิ์ หมายความว่า ใครก็ตามที่มีที่ดินที่ปลูกต้นไม้มีค่าก็จะถือเป็นทรัพย์สิน เป็นมรดกได้ ทั้งนี้ ในการประชุมครั้งหน้า คาดว่าจะมีคณะอนุกรรมการและผู้ที่เสนอแนวทางมากกว่านี้
เมื่อถามว่า มีแนวทางในการป้องกันนายทุนบุกรุกป่าอย่างไร พล.อ.สุรศักดิ์กล่าวว่า จริงๆแล้วเรามีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) วันนี้ต้องแยกแยะว่าคนทำผิดกฎหมายป่าไม้นั้นมีมาก ทั้งโดยเจตนาและไม่เจตนา พี่น้องประชาชนไปหาของป่าหรือไปตัดไม้ทำบ้านก็ผิดกฎหมาย ซึ่งส่วนนี้เราจะแก้กฎหมายให้สามารถตัดไม้มีค่าในพื้นที่ของตัวเองได้ ส่วนคนที่ทำผิด เราก็มีเครื่องมือในการจัดการและมีหน่วยงานเฉพาะกิจที่ดูแลเรื่องนี้ซึ่งมีผลงานที่ก้าวหน้า เนื่องจากมีการบูรณาการระหว่างตำรวจและทหาร แต่ทั้งหมดนี้ก็เป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ส่วนการเอาผิดนายทุนใหญ่จากกรณีที่เกิดขึ้นในจ.ลำปาง และ จ.แพร่ บางคดีก็เข้าสู่กระบวนการคดีพิเศษแล้ว
เมื่อถามว่า ที่ประชุมได้พูดคุยเรื่องการให้อำนาจกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้เพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน เพราะที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ป่าไม้ไม่ค่อยมีอำนาจในการบังคับใช้กฎหมาย พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า ทุกวันนี้เขาก็มีอำนาจอยู่แล้ว รวมถึงอำนาจของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ที่ 64/2557 ที่มุ่งกระทำกับผู้บุกรุกป่า ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้มีเพียงนายทุน หากมีพี่น้องประชาชนด้วย ถ้าถามว่าคนที่บุกรุกป่านั้นผิดกฎหมายหรือไม่ ก็ต้องบอกว่าผิดแน่นอน แต่ถ้าเป็นผู้ยากไร้เราก็ผ่อนผัน เราดูแลด้วยนโยบายที่ดินแห่งชาติให้เขามีที่ดินทำกิน ไม่ให้กรรมสิทธิ์ แต่ให้อยู่อาศัยได้