คุก2เดือนไม่รออาญา 'นพ.เปรมศักดิ์-ร.ต.บัวทอง' คดีถอดกางเกงนักข่าว

คุก2เดือนไม่รออาญา 'นพ.เปรมศักดิ์-ร.ต.บัวทอง' คดีถอดกางเกงนักข่าว

ศาลจังหวัดพล พิพากษาจำคุก2เดือน ไม่รอลงอาญา "นพ.เปรมศักดิ์-ร.ต.บัวทอง" คดีสั่งถอดกางเกงนักข่าว ด้านจำเลยทั้ง2คนใช้หลักทรัพย์ 120,000 บาทยื่นประกันตัว

จากกรณีที่นายแพทย์เปรมศักดิ์ เพียยุระ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น พร้อมพวก ตกเป็นจำเลยในข้อหา "ข่มขืนใจ บังคับขู่เข็ญทำให้ตกใจกลัว และกระทำการอนาจารต่อหน้าธารกำนัล โดยมีผู้สื่อข่าวภูมิภาคในจังหวัดขอนแก่นเป็นโจทย์ยื่นฟ้องหมอเปรมพร้อมพวก กรณีที่นายแพทย์เปรมศักดิ์ พร้อมพวก ได้ร่วมกันถอดกางเกงผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ประจำจังหวัดขอนแก่นนั้น

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 21 มิ.ย. 2561ที่ศาลจังหวัดพล อ.พล จ.ขอนแก่น ศาลนัดอ่านพิพากษาของศาลชั้นต้นในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายแพทย์เปรมศักดิ์ เพียยุระ อดีตนายกเทศบาลเมืองบ้านไผ่ จำเลยที่1 และร้อยตรีบัวทอง โลขันธุ์ เลขานุการของนายแพทย์เปรมศักดิ์ จำเลยที่ 2 ในข้อหาร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดหรือไม่ให้กระทำการใด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา309 และความผิดฐานอนาจาร ตามประมวล มาตรา278 และมาตรา281 ประกอบมาตรา83

นายก่อสิทธิ์กองโฉม ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ประจำศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในฐานะโจทก์ที่ห้องพิจารณาคดี2ชั้น2ศาลจังหวัดพล โดยที่ฝ่ายโจทก์ และ ฝ่ายจำเลย ได้เดินทางมารายงานตัวต่อศาลตามคำสั่งก่อนที่จะเดินขึ้นไปในห้องพิจารณาคดีทันทีจากนั้นคณะผู้พิพากษาได้ขึ้นอ่านคำตัดสินของศาลชั้นต้นนานกว่า1ชั่วโมง จึงมีคำพิพากษาให้จำคุก นพ.เปรมศักดิ์ จำเลยที่1และร้อยตรีบัวทอง โลขันธุ์ จำเลยที่2คนละ2เดือน โดยไม่รอลงอาญา

นายปกาญจน์ นพศรี ทนายความฝ่ายโจทก์กล่าวว่าเหตุผลของคำพิพากษา เนื่องจากศาลพิจารณาคำให้การของพยานทั้งฝ่ายโจทก์และฝ่ายจำเลย ซึ่งคำให้การของพยานฝ่ายโจทก์มีน้ำหนักน่าเชื่อถือมากกว่าให้การสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันแม้ว่าพยานของฝ่ายโจทก์จะอยู่ในสายอาชีพสื่อสารมวลชนด้วยกัน แต่ก็ไม่มีเหตุผลจำเป็นที่จะสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อใส่ร้ายจนทำให้เกิดความอับอาย และเพื่อให้จำเลยที่1เสื่อมเสียชื่อเสียง

อีกทั้งโจทก์ร่วมคือนายก่อสิทธิ์กองโฉม ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ประจำจังหวัดขอนแก่น รวมทั้งพยานโจทก์ที่เป็นสื่อมวลชน ก็ไม่เคยมีเหตุโกรธเคืองกับจำเลยที่1มาก่อน จึงไม่มีเหตุจำเป็นที่จะแต่งเรื่องขึ้นมา

“การตัดสินจำคุก นพ.เปรมศักดิ์ และ ว่าที่ ร.ต.บัวทอง ศาลให้เหตุผลว่าจำเลยทั้งคู่มีหน้าที่การงานที่ดี มั่นคง เป็นผู้นำท้องถิ่น และเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง แต่การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เปิดขึ้นกับผู้อื่น และให้เป็นตัวอย่างต่อสาธารณชน ศาลได้วิเคราะห์แล้วเห็นว่า โจทก์มีพยานเป็นผู้สื่อข่าว5คน ที่อยู่ในเหตุการณ์ใกล้ชิด มีการให้การที่สอดคล้องต่อเนื่องเป็นเหตุเป็นผล และไม่มีเรื่องโกรธแค้นกับจำเลยทั้ง2อีกทั้งไม่ปรากฏหลักฐานว่ามีคู่แข่งทางการเมืองอยู่เบื้องหลังโจทก์ร่วมเพื่อกำจัดให้พ้นจากตำแหน่งตามที่ฝ่ายจำเลยกล่าวอ้าง การกระทำของจำเลยทั้ง2เป็นการกระทำกรรมเดียวแต่ผิดหลายมาตรา ให้ลงโทษในมาตราที่มีอัตราโทษสูงสุดเป็นเวลา2เดือน ทั้งนี้จำเลยเคยดำรงตำแหน่ง ส.ส.4สมัยและได้รับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ ซึ่งเป็นตำแหน่งอันทรงเกียรติจึงต้องครองตนเป็นตัวอย่างแก่สังคมแต่กลับทำเรื่องเสื่อมเสียร้ายแรงเพื่อให้จำเลยเข็ดหลาบไม่เป็นเยี่ยงอย่างแก่คนทั่วไป ศาลจึงพิพากษาจำคุก2เดือนโดยไม่รอลงอาญา ส่วนการจะยืนอุทธรณ์ของฝ่ายจำเลยนั้นเป็นสิทธิ์ที่จำเลยกระทำได้” นายปกาญจน์กล่าว


ขณะที่นายก่อสิทธิ์กองโฉม ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ประจำศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในฐานะโจทก์ กล่าวว่าขอขอบพระคุณที่ศาลให้ความยุติธรรมพร้อมกับให้คดีนี้เป็นคดีตัวอย่างเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของสื่อมวลชนซึ่งทำให้มีกำลังใจในการทำงานเพื่อสังคมต่อไป


คดีหมอเปรมแก้ผ้านักข่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่26ก.ค.2559โดยผู้สื่อข่าวจาก5สำนักข่าวในจังหวัดขอนแก่นคือนายก่อสิทธิ์ กองโฉม ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือนายปราโมทย์ ศรีบุระ ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง3น.ส.จิติมาจันพรม ผู้สื่อข่าวเครือเดอะเนชั่นนายสุพลบุญชื่นชม ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์มติชนข่าวสด และนายปรัชญาเทพสกุลผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์เคเคซีเคเบิ้ล ทีวี ที่ได้ติดตามทำข่าว กรณีที่มีการเผยแพร่ภาพทางโซเชียลมีเดีย เป็นภาพ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น นั่งคู่กับหญิงสาวชั้น ม.5โดยที่ด้านหน้ามีพานใส่ธนบัตรจำนวนหนึ่งมีสำเนาทะเบียนรถยนต์เล่มสีน้ำเงินวางอยู่1เล่ม พร้อมพระพุทธรูปโดยมีคนเฒ่าคนแก่กำลังผูกแขน คล้ายมีพิธีหมั้นหรือพิธีมงคลสมรสของภาคอีสาน โดยผู้สื่อข่าวทั้งหมดได้ขอพบและสัมภาษณ์หมอเปรมที่ทำการสำนักงานเทศบาลเมืองบ้านไผ่ได้สร้างความไม่พอใจให้กับหมอเปรมเมื่อผู้สื่อข่าวทั้งหมดเข้าไปภายในห้องกลับถูกหมอเปรมสั่งเจ้าหน้าที่เทศบาลเก็บโทรศัพท์ มือถือ กล้องถ่ายภาพ พร้อมกับล็อกตัวผู้สื่อข่าว นสพ.เดลินิวส์ ประจำ จ.ขอนแก่น แก้ผ้าประจาน


ล่าสุด จำเลยทั้ง2คน ได้ใช้หลักทรัพย์ คนละหนึ่งแสนสองหมื่นบาทเพื่อยื่นประกันตัวต่อศาลแล้ว