อิหร่านโบ้ย"ทรัมป์"ต้นตอราคาน้ำมันแพง

อิหร่านโบ้ย"ทรัมป์"ต้นตอราคาน้ำมันแพง

หลังสหรัฐประกาศคว่ำบาตรอิหร่านและเวเนซุเอลา

นายบิจาน ซานกาเนห์ รมว.น้ำมันอิหร่าน กล่าวว่า การที่ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นในตลาด เกิดจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทำการคว่ำบาตรอิหร่านและเวเนซุเอลา แต่เขากลับเรียกร้องให้กลุ่มผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) แก้ไขปัญหาด้วยการผลิตน้ำมันมากขึ้น

“ประธานาธิบดีทรัมป์คิดว่าเขาสามารถสั่งโอเปกให้ทำบางสิ่งบางอย่างได้ ซึ่งผมคิดว่ามันไม่ยุติธรรม โอเปกไม่ใช่เป็นส่วนหนึ่งของกระทรวงพลังงานของสหรัฐ” นายซานกาเนห์กล่าวและว่าน้ำมันไม่ใช่อาวุธ และไม่ใช่เครื่องมือทางการเมืองที่จะใช้โจมตีประเทศใดประเทศหนึ่ง ผู้ผลิต หรือผู้บริโภค

ขณะเดียวกัน อิหร่านส่งสัญญาณว่าจะยอมประนีประนอมให้กลุ่มโอเปกเพิ่มกำลังการผลิตเล็กน้อยในการประชุมสัปดาห์นี้ ซึ่งท่าทีของอิหร่านถือว่าแตกต่างจากเมื่อวานนี้ซึ่งอิหร่านระบุว่าไม่มีแนวโน้มที่โอเปกจะบรรลุข้อตกลงในวันศุกร์นี้

ทั้งนี้ โอเปกจะจัดการประชุมนโยบายการผลิตน้ำมันที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ในวันศุกร์นี้ ก่อนที่กลุ่มประเทศนอกโอเปก นำโดยรัสเซีย จะเข้าร่วมการประชุมในวันเสาร์

ก่อนหน้านี้ กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันมีมติขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.8 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปีนี้เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมัน ขณะที่สหรัฐ จีน และอินเดียต่างเรียกร้องให้โอเปกเพิ่มการผลิตน้ำมันเพื่อฉุดให้ราคาลดต่ำลง

นายบิจาน ซานกาเนห์ รมว.น้ำมันอิหร่าน กล่าวว่า สมาชิกโอเปกซึ่งได้ปรับลดกำลังการผลิตมากกว่าที่ได้ตกลงกันไว้ จะสามารถเพิ่มการผลิตเพื่อให้สอดคล้องกับโควตาที่ระบุไว้

ทั้งนี้ ข้อมูลในเดือนเม.ย.พบว่า กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันได้ให้ความร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันมากถึง 152% ซึ่งหมายความว่ามีการปรับลดกำลังการผลิตรวมกันมากกว่า 1.8 ล้านบาร์เรล/วันที่ตกลงกันไว้

แหล่งข่าวระบุว่า โอเปกและผู้ผลิตน้ำมันนอกโอเปกจะทบทวนนโยบายการผลิตน้ำมันในการประชุมสัปดาห์นี้ โดยจะให้มีการปรับเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อให้ตัวเลขความร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลดลงสู่ระดับ 100% จาก 152% ในขณะนี้