ดาวโจนส์ปิดแดนลบ

ดาวโจนส์ปิดแดนลบ

หลังเปิดตลาดดีดตัวขึ้นขณะนักลงทุนยังกังวลสงครามการค้าสหรัฐ-จีน

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันพุธ (20มิ.ย.)ตามเวลาท้องถิ่น ในแดนลบ หลังจากเปิดตลาดดีดตัวขึ้นในช่วงแรก ขณะที่นักลงทุนยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลง 42.41 จุดหรือ 0.17% ปิดที่ 24,657.8 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500  เพิ่มขึ้น 4.73 จุดหรือ 0.17% ปิดที่ 2,767.32  จุดและดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 55.93 จุดหรือ 0.72% ปิดที่ 7,781.52 จุด

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่จะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนรอบใหม่ในอัตรา 10% วงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ พร้อมกับเตือนว่า หากรัฐบาลจีนเรียกเก็บภาษีสินค้าจากสหรัฐอีก เพื่อตอบโต้แผนเก็บภาษีนำเข้ารอบใหม่ในอัตรา 10% สหรัฐก็พร้อมเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนในวงเงินเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์

ด้านกระทรวงพาณิชย์จีนได้ออกแถลงการณ์ว่า รัฐบาลจีนพร้อมตอบโต้อย่างรุนแรง หากสหรัฐเรียกเก็บภาษีสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 10% ตามที่ปธน.ทรัมป์ขู่ไว้

ขณะที่หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ของเยอรมนีได้ยื่นข้อเสนอเพื่อให้สหภาพยุโรป (อียู) ยุติมาตรการเรียกเก็บภาษี 10% ต่อรถยนต์นำเข้าจากสหรัฐ

ข้อเสนอดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่นายริชาร์ด เกรเนลล์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำเยอรมนี ได้จัดการเจรจากับผู้บริหารของผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของเยอรมนี ซึ่งได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู โฟล์คสวาเกน และเดมเลอร์ ซึ่งที่ประชุมได้มีแนวคิดในการยุติการตั้งกำแพงภาษีรถยนต์ระหว่างสหรัฐและอียู

ทั้งนี้ ผู้บริหารรถยนต์ของเยอรมนีเสนอให้มีการยกเลิกการเรียกเก็บภาษี 10% ต่อรถยนต์ที่นำเข้าจากสหรัฐ อันเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงในวงกว้างที่รวมถึงสินค้าในภาคอุตสาหกรรม

อย่างไรก็ดี อียู ต้องการให้สหรัฐยกเลิกการเรียกเก็บภาษี 25% ต่อรถปิกอัพ, รถสปอร์ตอเนกประสงค์(เอสยูวี) และรถแวนที่นำเข้าจากยุโรปเช่นกัน

รายงานข่าวนี้มีขึ้น หลังจากที่อียูประกาศเรียกเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 3.2 พันล้านดอลลาร์เพื่อตอบโต้ต่อการที่สหรัฐเรียกเก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียมจากยุโรป