ตั้งสอบวินัยร้ายแรง 'ปรีชา' หวย 30 ล้าน

ตั้งสอบวินัยร้ายแรง 'ปรีชา' หวย 30 ล้าน

กศจ.กาญจนบุรี ตั้งกรรมการสอบวินัยอย่างร้ายแรง “ปรีชา” กรณีหวย 30 ล้าน เบื้องต้นสั่งย้ายมาปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวที่ สพม.เขต 8 กาญจนบุรีแล้ว จับตา 4 ก.ค.พิจารณาให้ออกจากราชการไว้ก่อนหรือไม่

พล.ท.โกศลประทุมชาติ ที่ปรึกษารมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยความคืบหน้ากรณีนายปรีชา ใคร่ครวญ ครูโรงเรียนเทพมงคลรังสี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา(สพม.) เขต8 กาญจนบุรีผู้ต้องหาคดีอาญาฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน กรณีสลากกินแบ่งรัฐบาลหรือหวย30ล้าน ว่า คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงของ สพม.เขต8 กาญจนบุรีได้สรุปผลแล้ว กรณีนายปรีชามีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง และมีคำสั่งให้นายปรีชามาประจำที่ สพม.เขต 8 กาญจนบุรี เพื่อไม่ให้ปฏิบัติการสอน

พร้อมกันนี้ได้เสนอให้คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) กาญจนบุรี ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงและ กศจ.กาญจนบุรี ได้ออกคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงแล้ว อย่างไรก็ตาม ในการประชุม กศจ.กาญจนบุรี วันที่ 4 ก.ค.นี้ จะพิจารณาว่าจะใช้มาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในระบบราชการ ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ นายปรีชา ออกจากราชการไว้ก่อนหรือไม่

“ตอนนี้ครูปรีชา ถือว่าออกจากโรงเรียนมาแล้ว ซึ่งข้าราชการ เมื่อต้องคดีอาญา ถ้าเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาล หน่วยงานต้นสังกัดต้องพิจารณา มาตรการ ว่าจะให้ออกจากราชการไว้ก่อน หรือให้โยกไปอยู่ตรงไหน เพื่อรอการตรวจสอบ หากภายหลังศาลตัดสิน แล้วว่าไม่มีความผิด ก็ให้กลับเข้ารับราชการใหม่ได้”พล.ท.โกศล กล่าว

นายบูรพาทิศ พลอยสุวรรณ์ รองเลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่ากรณีของนายปรีชา ตามกระบวนการเมื่อ กศจ.กาญจนบุรี มีมติตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงแล้ว จะต้องส่งเรื่องให้คณะอนุกรรมการมาตรฐานวิชาชีพตรวจสอบข้อมูล ก่อนพิจารณาว่าจะเสนอถอดถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพหรือไม่ ซึ่งต้องรอพิจารณาสำนวนในการตั้งกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงก่อน

ทั้งนี้ ตามข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพการ ซึ่งกำหนดไว้ว่าพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด การค้าประเวณี พฤติกรรมเกี่ยวข้องกับการกระทำล่วงละเมิดทางเพศทั้งต่อนักเรียน นักศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษา บุคคลอื่นและถูกฟ้องคดีอาญาในความผิดเกี่ยวกับทรัพย์หรือทุจริตต่อหน้าที่ มีโทษตั้งแต่การตักเตือน ภาคทัณฑ์ พักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ และเพิกถอนใบอนุญาตฯ ซึ่งกรณี นายปรีชานั้นไม่ถึงขั้นพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู แต่จะไปเข้าข่ายการประพฤติตนไม่เป็นแบบอย่าง