แจงทุกประเด็น เบรกดราม่าประหารนักโทษ ได้มื้อสุดท้ายข้าวเหนียวไก่ย่าง

แจงทุกประเด็น เบรกดราม่าประหารนักโทษ ได้มื้อสุดท้ายข้าวเหนียวไก่ย่าง

โฆษกกระทรวงยุติธรรม แจงยิบราชทัณฑ์ดำเนินการตามวิธีการประหารครบถ้วน ก่อนตายนักโทษได้โทรศัพท์พูดคุยลูก-เมีย ขอข้าวเหนียวไก่ย่างเป็นอาหารมื้อสุดท้าย

เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.61 นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และโฆษกกระทรวงยุติธรรม ชี้แจงผ่านเฟชบุ๊คส่วนตัว กรณีญาติของนช.ธีรศักดิ์ นักโทษประหารรายล่าสุดออกมาตำหนิว่า ไม่มีโอกาสร่ำลา-ดูใจก่อนการประหาร ว่า กรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการตามระเบียบกระทรวงยุติธรรม ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการประหารชีวิตนักโทษ พ.ศ. 2546 อย่างเคร่งครัดครบถ้วน โดยเฉพาะตามข้อ 10 ที่ให้เรือนจำสอบถามนักโทษที่จะถูกประหารชีวิตถึงการจัดการทรัพย์สิน ถ้าหากนักโทษแสดงเจตนาที่จะจัดการทรัพย์สินของตนก็ให้แสดงเจตนาไว้เป็นลายลักษณ์อักษร กรณีนักโทษเขียนหนังสือไม่ได้ให้เจ้าพนักงานเรือนจำเป็นผู้เขียนให้แล้วอ่านให้นักโทษผู้นั้นฟัง แล้วให้ลงลายมือชื่อหรือลายพิมพ์นิ้วมือไว้เป็นหลักฐาน โดยมีพยานอย่างน้อย 2 คนลงชื่อรับรองลายมือชื่อหรือลายพิมพ์นิ้วมือนั้น

โฆษกกระทรวงยุติธรรม ระบุด้วยว่า หากนักโทษมีความประสงค์จะเขียนจดหมายหรือส่งข้อความบอกกล่าว หรือจะโทรศัพท์พูดกับญาติหรือผู้ใด หรือมีความประสงค์จะทำสิ่งใด ซึ่งเจ้าพนักงานเรือนจำพิจารณาแล้วเห็นสมควรก็ให้เรือนจำอำนวยความสะดวกให้ แต่การส่งข้อความหรือการพูดคุยโทรศัพท์สามารถกระทำได้ตามที่คณะกรรมการเห็นสมควร ทั้งนี้ให้เรือนจำจัดเตรียมโทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารไว้เป็นการเฉพาะ ซึ่งนักโทษรายดังกล่าวประสงค์คุยกับภรรยาและลูก ซึ่งได้พูดคุยตามที่ต้องการ

“นอกจากนี้ยังให้เรือนจำสอบถามนักโทษถึงอาหารมื้อสุดท้าย และหากไม่เป็นการเหลือวิสัยให้เรือนจำจัดให้ตามสมควรและเหมาะสม โดยนักโทษประสงค์รับประทานข้าวเหนียวไก่ย่าง และข้อ 18 ให้เรือนจำจัดเก็บศพของนักโทษที่ถูกประหารชีวิตไว้ในเรือนจำเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง เมื่อล่วงเลยระยะเวลาดังกล่าวแล้วให้แพทย์ของทางราชการร่วมกับผู้บัญชาการเรือนจำตรวจสอบ โดยทำบันทึกยืนยันการตายอีกครั้งหนึ่ง” นายธวัชชัยกล่าว

รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวต่อว่า เมื่อนักโทษเสียชีวิตแล้วให้เรือนจำแจ้งญาติทราบในโอกาสแรก หรือหลัง 12 ชั่วโมงที่นักโทษเสียชีวิต หากมีญาติมาขอรับให้มอบศพนั้นไป แต่ถ้าไม่มีญาติมาขอรับก็ให้จัดการเผาหรือฝังตามที่เรือนจำจะเห็นสมควรต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการประหารชีวิตนักโทษ ที่ก่อคดีอาชญากรรมสะเทือนขวัญ ส่งผลให้ประเทศไทยถูกองค์กรระหว่างประเทศ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล โจมตีอย่างหนัก ทำให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมราชทัณฑ์ ได้ปรับหน้าเพจในโซเชียลมีเดีย ขึ้นรูป พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมระบุข้อความว่า “เราจะธำรงค์ไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของการบังคับโทษตามกฎหมาย เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน และความสงบสุขของสังคมไทย”