หวั่นแท้ง ก.การอุดมศึกษาถ้าไม่ทันเลือกตั้ง

เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.61 นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เปิดเผยว่าได้แจ้งกับที่ประชุม ทปอ. เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้หารือเรื่องจัดตั้งกระทรวงการอุดมศึกษา วิจัย และนวัตกรรม โดยได้ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และนพ.อุดม คชินทร รมช.ศึกษาธิการ ว่า ทปอ.ไม่ขัดข้องในเรื่องกระทรวงใหม่ที่รัฐบาลกำลังดำเนินการ แต่ ทปอ. ยังเป็นห่วงเรื่อง ร่าง พ.ร.บ.การอุดมศึกษา ซึ่งผ่านการทำประชาพิจารณ์ ผ่านกระบวนการที่ นพ.อุดม เป็นประธาน จึงอยากให้คงไว้ซึ่งร่าง พ.ร.บ.การอุดมศึกษา ฉบับนี้ ส่วนที่จะควบรวมหรือไม่ ขึ้นกับประธานร่วม 4 ฝ่ายที่แต่งตั้งขึ้น

“ทปอ.ไม่ขัดข้องการจัดตั้งกระทรวงอุดมศึกษา วิจัย และนวัตกรรม แต่ขอให้ พ.ร.บ.การอุดมศึกษานั้นคงอยู่ เพราะว่าได้ผ่านกระบวนการทุกอย่างแล้ว ไม่เช่นนั้นก็จะไม่สามารถเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปการศึกษาได้ สิ่งที่เป็นห่วงของ ทปอ.คือ ระยะเวลา แต่ทางรัฐบาลก็บอกว่า ไม่น่าจะเกิน 3 เดือน ถ้าไม่สามารถดำเนินการได้ภายใน 3 เดือน ก็ขอให้เดินหน้ายื่น ร่าง พ.ร.บ.การอุดมศึกษา ต่อไป สนับสนุนให้เกิดกระทรวงการอุดมศึกษา ให้ได้” ศ.ดร.สุชัชวีร์ กล่าว

ทั้งนี้ สำหรับข้อห่วงใยส่วนตัวนั้น ในการประชุม ทปอ.นัดพิเศษ ต้องขอบคุณ นายสุวิทย์ และ นพ.อุดม ซึ่งได้ชี้แจงกับ ทปอ.ถึงความจำเป็นของประเทศต้องขับเคลื่อนองค์กรไปด้วยกัน ทั้งเรื่องของนวัตกรรม งานวิจัย ของอุดมศึกษาควรทำงานด้วยกันอย่างแนบแน่น ซึ่งหลักการเห็นตรงกัน แต่เป็นห่วงเหลือเกินว่า พ.ร.บ.การอุดมศึกษา จะล่าช้า ทำให้กระทรวงการอุดมศึกษา ไม่ได้ออกมาจากกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)ตามวัตถุประสงค์ของการปฏิรูอุดมศึกษา ซึ่งสุดท้ายกระทรวงการอุดมฯ ก็สนับสนุนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ 20 ปี ไม่มีเรื่องอะไรอื่นซับซ้อน ในวันประชุมร่วมกัน อธิการบดีมหาวิทยาลัยทุกคน พูดกับรัฐมนตรีทั้ง 2 คนอย่างตรงไปตรงมา จนเป็นที่มาของการทำหนังสือยืนยันว่า ทปอ.ไม่ได้ขัดข้อง แต่กังวลเรื่องเวลาเท่านั้นเอง

นพ.อุดม กล่าวว่า ได้รับหนังสือยืนยันการสนับสนุนการจัดตั้งกระทรวงใหม่ และข้อห่วงใยจาก ทปอ. เกี่ยวกับ หลักการความคล่องตัวและความเป็นอิสระเป็นเรื่องสำคัญต้องมี เพราะตอนนี้กลับไปเป็นพวงใหม่มีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพิ่มเข้ามา จากเดิมแยกกัน และนำกระทรวงวิทย์ และวิจัยมารวม และต้องให้ทันก่อนเลือกตั้ง เพราะถ้าไม่ทันจะแท้ง เพราะเป็นเรื่องที่ได้รายงาน พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาคณะทำงานในการเตรียมการจัดตั้งกระทรวงใหม่ และได้แจ้งกับรองนายกฯว่าเป็นสิ่งที่มหาวิทยาลัยห่วงใยมาก เนื่องจากเตรียมการหมดแล้ว และผ่านความเห็นชอบจาก ทปอ.แล้ว และผ่านการประชาพิจารณ์มาแล้ว รวมทั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษาก็ได้ให้ความเห็นชอบแล้ว เพราะฉะนั้นจะเสียหายกับประเทศอย่างมาก ซึ่งเรื่องนี้รองนายกฯ ก็รับปากว่าจะไปดำเนินการให้