ANAN - ซื้อเก็งกำไร

ANAN - ซื้อเก็งกำไร

สิ้นสุดการรอคอย...การกลับมาของ Ashton Asoke!

ราคาหุ้น ANAN กำลังอยู่ในช่วงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งจากที่ปรับตัวลงแรงกว่า 17% นับจากต้นปีจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากเราประเมินว่ากำไรของบริษัทจะกลับมาเติบโตแรงที่ 44% ในปี 2561 หลังจากโครงการ Ashton Asoke สามารถเริ่มโอนได้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทั้งนี้กจากการปรับประมาณการกำไรเพิ่มขึ้นของเราทำให้เราปรับเพิ่มราคาเป้าหมายสิ้นปี 2561 ของเราใหม่โดยขยับขึ้นเป็น 5.8 บาท (จากเดิม 4.6 บาท) อ้างอิง PER สิ้นปี 2561 เท่าเดิมที่ 10.5 เท่า (อ้างอิงจากค่าเฉลี่ยตั้งแต่ IPO ในปี 2555) คงคำแนะนำ
“ซื้อเก็งกำไร”

นำโครงการ Ashton Asoke กลับมาคิดในประมาณการ

Ashton Asoke คอนโดร่วมทุน 51:49 ระหว่าง ANAN และ Mitsui Fodosan ซึ่งมีมูลค่าโครงการรวม 6.7 พันล้านบาท (จองแล้ว 75%) เริ่มโอนสิทธิการเป็นเจ้าของให้กับลูกค้าเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ผู้บริหารตั้งเป้าอย่างอนุรักษ์นิยมว่าโครงการจะเริ่มโอนได้ในไตรมาส4/61 เนื่องจากตอนที่โครงการก่อสร้างแล้วเสร็จในไตรมาส 4/60 นั้น โครงการดังกล่าวยังมิได้รับใบอนุญาติใช้อาคารและโฉนด โดยปัจจุบันเรานำกำไรที่คาดจะมาจากโครงการดังกล่าวกลับมาคิดในประมาณการของเรา (ในรายงานวันที่ 20 มี.ค. 2561 เราได้นำส่วนแบ่งกำไรจากโครงการนี้ออกจากคาดการณ์เพื่อสะท้อนสมมติฐานกรณีแย่ที่สุดคือโอนไม่ทันในปีนี้) ทำให้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรหลักขึ้น 25% สำหรับปี 2561 และ 6% สำหรับปี 2562 เพื่อสะท้อนคาดการณ์การโอนโครงการ Ashton Asoke 70% ของมูลค่าโครงการในปี 2561 และ 30% ในปี 2562 (ซึ่งอนุรักษ์นิยมกว่าเมื่อเปรียบทียบกับบริษัทที่ตั้งเป้าโอนทั้งหมดในปี 2561) อีกทั้ง ANAN มีแนวโน้มกลับการตั้งสำรองฯ จำนวน 18 ล้านบาทในไตรมาส 1/61 ที่เผื่อไว้ในกรณีที่ Ashton Asoke ไม่สามารถโอนได้ภายในวันที่ 26 มี.ค.2562 ซึ่งเป็นวันกำหนดแล้วเสร็จอย่างเป็นทางการ

สถานะทางการเงินดีขึ้นทำให้มีโอกาสเกิดการเปิดโครงการใหม่มากกว่าแผน

งบแสดงสถานะการเงินได้รับผลกระทบเชิงบวก เนื่องจากสัดส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนสุทธิ ณ สิ้นปี 2561 มีแนวโน้มจะลดลงจาก 0.9 เท่าเป็น 0.8 เท่า เราสัมผัสได้ว่า ANAN มีโอกาสในการดันมูลค่าโครงการเปิดใหม่ให้สูงกว่าเปาหมายปี 2561 ณ ปัจจุบันที่ 34-36 พันล้านบาท (เป็นคอนโด 79% และโครงการแนวราบ 21%) เนื่องจากมีกระแสเงินสดเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากการโอน Ashton Asoke โดยตามแผนเดิมบริษัทวางแผนจะเปิดคอนโดร่วมทุนใหม่ 2 โครงการในครึ่งแรกของปี 2561, 3 โครงการในไตรมาส 3/61 และ 2 โครงการในไตรมาส 4/61 โดยเราคาดว่ามีความเป็นไปได้ที่บริษัทอาจเปิดตัวโครงการร่วมทุนเพิ่มเติมในครึ่งหลังปีนี้ ทั้งนี้หากมีการเปิดโครงการใหม่เพิ่มขึ้นจริง ยอดจองซื้อปี 2561 มีโอกาสสูงกว่าเป้าหมายของบริษัทที่ 35-36 พันล้านบาท (ทรงตัว YoY)

กำไรรายไตรมาสเป็นขาขึ้น

เราคาด ANAN จะรายงานกำไรเติบโต YoY และ QoQ จะเติบโตทุกไตรมาสระหว่างไตรมาส 2/61-4/61 (โดยมีแนวโน้มจะทำสถิติสูงสุดใหม่ได้ในไตรมาส 4/61) หนุนโดยส่วนแบ่งกำไรจากคอนโดร่วมทุน โดยเราประเมินว่าส่วนแบ่งกำไรดังกล่าวจะพลิกจากขาดทุน 342 ล้านบาทในปี 2560 เป็นกำไร 470 ล้านบาทในปี 2561 มูลค่าคอนโดร่วมทุนแล้วเสร็จจะกระโดดขึ้นจาก 12 พันล้านบาทในปี 2560 เป็น 36 พันล้านบาทในปี 2561 ตารางการโอนคอนโดร่วมทุนมีดังนี้: ไตรมาส 1/61 - Q Chidlom (โครงการมูลค่า 3.1
พันล้านบาท จองแล้ว 68%); ไตรมาส 2/61 – Ashton Chula-Silom (8.7 พันล้านบาท จองแล้ว 81%) Ashton Asoke (6.7 พันล้านบาท จองแล้ว 75%); ไตรมาส 4/61 - Ashton Silom (6.1 พันล้านบาท จองแล้ว 67%) Ideo Sukhumvit 93 (มูลค่า 6.2 พันล้านบาท จองแล้ว 89%) Ideo Mobi Sukhuvmit 66 (มูลค่า 2.4 พันล้านบาท จองแล้ว 45%) และ Ideo Phaholythin-Chatuchak (มูลค่า 2.6 พันล้านบาทจองแล้ว 74%)