รายย่อยไอเฟคจี้ 'ก.ล.ต.' เชือดอดีตบิ๊กประนอมหนี้มิชอบ

รายย่อยไอเฟคจี้ 'ก.ล.ต.' เชือดอดีตบิ๊กประนอมหนี้มิชอบ

รายย่อย "ไอเฟค" จี้ก.ล.ต.เชือดอดีตผู้บริหารประนอมหนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เร่งปลด "ศุภนันท์" เพื่อเปิดทางประชุมผู้ถือหุ้นเลือกรรมการใหม่

นางสาวเยาวลักษณ์ ฤทธิ์สมจิตต์ ตัวแทนผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ได้รับความเดือนร้อนจากการลงทุนหุ้น บริษัทอินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (IFEC) เปิดเผยว่า นักลงทุนรายย่อยที่ได้รับความเดือนร้อนจากการลงทุนไอเฟค ได้ทำหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้ดำเนินคดีกับการกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ไอเฟคและบริษัทย่อย ของกลุ่มบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับอดีตกรรมการบริษัท มีการนำโฉนดที่ดินของโรงแรมดาราเทวี ไปจดจำนองค้ำประกันกับเจ้าหนี้หุ้นกู้ ตามการประนอมหนี้ที่เจ้าหนี้หุ้นกู้เสียเปรียบ

“การนำโฉนดของโรงแรมดาราเทวี มาค้ำประกันให้ได้ และยังยอมผูกพันในสัญญาประนอมหนี้ที่เสียเปรียบเจ้าหนี้หุ้นกู้ถึงขนาดว่าหากไอเฟคผิดนัดชำระหนี้ก็ยอมให้เจ้าหนี้บังคับคดีได้ทันที ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน”

นางสาวเยาวลักษณ์ กล่าวว่า ไอเฟคถูกฟ้องเป็นจำเลยในศาลแพ่งเป็นคดีประมาณ 70 คดี ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นคดีที่เจ้าหนี้ตั๋วแลกเงิน และเจ้าหนี้หุ้นกู้ฟ้องไอเฟค ให้รับผิดจากการผิดนัดชำระเงินตามตั๋วบี/อีและหุ้นกู้ แต่จากการตรวจสอบในรายละเอียดของคดีต่างๆ พบว่าคดีส่วนใหญ่เป็นการดำเนินกระบวนการพิจารณากันตามปกติ แต่มีอยู่อย่างน้อย 2 คดีที่มีความผิดปกติ

คดีแรก การทำสัญญาประนีประนอมยอมความเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2561 ที่รวบรัดทำกันก่อนศาลนัดพิจารณาครั้งแรกวันที่ 21 พฤษภาคม 2561 ในสัญญายอมความนั้น มีการถอนฟ้องอดีตกรรมการไอเฟคทั้ง 9 คน โดยจำเลยตกลงยอมชำระต้นเงินพร้อมดอกเบี้ยเต็มจำนวน 180 ล้านบาท ให้แก่โจทก์ภายใน 2 ปี ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี โดยจะนำที่ดินจำนวน 95 โฉนดจดจำนองแก่โจทก์ภายใน 3 เดือนเป็นประกัน หากผิดนัดยอมให้โจทก์บังคับคดีได้ทันที

ส่วนคดีที่ 2 ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2561 ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า คดีนี้ได้ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2561 ก่อนทำสัญญาประนีประนอมยอมความเพียง 2 วัน โดยมีการขอถอนฟ้องอดีตกรรมการไอเฟค ทั้ง 9 คนออกจากคดี จำเลยตกลงยอมรับว่าจะชำระหนี้ทั้งต้นเงินพร้อมดอกเบี้ยเต็มจำนวน 149 ล้านบาท ให้แก่โจทก์ภายใน 2 ปี ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี โดยจะนำที่ดินจำนวน 95 โฉนดจดจำนองแก่โจทก์ภายใน 3 เดือนเป็นประกัน หากผิดนัดยอมให้โจทก์บังคับคดีได้ทันที

นอกจากนี้นักลงทุนรายย่อยยังได้เรียกร้องให้ก.ล.ต.ปลดศุภนันท์ ฤทธิไพโรชน์ ออกจากตำแหน่งกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารอย่างเร่งด่วน และเร่งจัดให้มีการจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น เพื่อเลือกกรรมการชุดใหม่ เข้ามาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และทำให้ไอเฟคกลับมาแข็งแกร่งดังเดิม