'ประวิตร' เร่งจัดระเบียบชายแดนภาคใต้ ลดความเสี่ยงก่อเหตุ

'ประวิตร' เร่งจัดระเบียบชายแดนภาคใต้ ลดความเสี่ยงก่อเหตุ

"พล.อ.ประวิตร" เร่งจัดระเบียบชายแดนภาคใต้ ลดความเสี่ยงก่อเหตุ พร้อมขับเคลื่อนค่ายพัฒนาเพื่อการเรียนรู้สังคมพหุวัฒนธรรม เพื่อส่งเสริมการสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง นำไปสู่การอยู่ร่วมในสังคมได้อย่างสันติสุข

เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 61 เวลา 10.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.) ครั้งที่ 3/2561 โดยสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) หรือ สล.คปต. เป็นฝ่ายเลขานุการ พร้อมมีผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในฐานะกรรมการ คปต. ส่วนหน้า พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนกลางและในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าร่วมประชุม ซึ่งสรุปสาระสำคัญ ดังนี้

ที่ประชุม คปต. ได้รับทราบเรื่องพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ที่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ยึดถือปฏิบัติ ด้วยความรอบคอบ ระมัดระวัง ตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย และต้องดำเนินการด้วยความสุจริต คุ้มค่า โปร่งใส มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล สามารถตรวจสอบได้

พร้อมกันนี้ ในส่วนของการติดตามความก้าวหน้าตามมติ คปต. และข้อสั่งการของประธาน คปต. ที่ผ่านมานั้น ได้รับทราบความก้าวหน้าการจัดทำแผนอัตรากำลังพลตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) และตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ในพื้นที่ รวม 4,700 อัตรา ให้มีความพร้อมรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ในอนาคต และรับทราบการจัดทำแนวทางการจัดระเบียบชายแดนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อใช้เป็นกรอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ยึดถือปฏิบัติอย่างเร่งด่วน

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบร่วมกัน ประกอบด้วย 1) แนวทางแก้ไขปัญหาการรังวัดที่ดิน กรณีการจัดหาที่ดินเพิ่มเติมเพื่อการดำเนินโครงการพัฒนาด่านศุลากรบูเก๊ะตา ตำบลโล๊ะจูด อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส ให้มีความพร้อมปฏิบัติงานและเพื่ออำนวยความสะดวกในการผ่านแดนตามกฎหมายแก่ผู้เดินทาง เข้า-ออก ค้าขาย ท่องเที่ยว รวมถึงผู้ประกอบการที่เข้ามาลงทุนในพื้นที่ 2) โครงการขับเคลื่อนค่ายพัฒนาเพื่อการเรียนรู้สังคมพหุวัฒนธรรม เพื่อส่งเสริมการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง นำไปสู่การอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมได้อย่างสันติสุข 3) โครงการจัดหาเรือยางตรวจการณ์ท้องแข็งในการใช้ลาดตระเวนทางน้ำในพื้นที่ เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาการกระทำผิดกฎหมายตามแนวชายแดนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และ 4) โครงการอาชีวศึกษาประชารัฐในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อช่วยเหลือและสร้างโอกาสทางการศึกษาวิชาชีพแก่นักเรียนและเยาวชนในพื้นที่เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ตอนท้ายของการประชุมฯ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน คปต. ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดระเบียบจังหวัดชายแดนในพื้นที่ภาคใต้โดยเร็ว โดยต้องคำนึงถึงความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งเน้นย้ำการดำเนินการด้านงบประมาณให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พร้อมกล่าวให้ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญและสนับสนุนความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างต่อเนื่อง และเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ซึ่งจะเป็นพลังร่วมสร้างสันติสุขอย่างยั่งยืนต่อไป