สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์วันที่ 11-15 มิถุนายน 2561

สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์วันที่ 11-15 มิถุนายน 2561

“เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 5 เดือน ขณะที่ ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นในช่วงสั้นๆ ต้นสัปดาห์ ก่อนที่จะร่วงลงอย่างต่อเนื่อง”

สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท

-  เงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 5 เดือนที่ 32.46 บาทต่อดอลลาร์ โดยเงินบาททยอยอ่อนค่าลงสอดคล้องกับสถานะขายสุทธิในตลาดหุ้น และพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่ เงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งหลังการประชุมเฟด ซึ่งมีสัญญาณสะท้อนแนวโน้มการคุมเข้มมากขึ้น โดยเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปี (เทียบกับมุมมองเดิมที่สะท้อนการขึ้นดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในครึ่งปีหลัง) นอกจากนี้ การส่งสัญญาณยืนดอกเบี้ยต่ำของธนาคารกลางยุโรป (แม้ยุติมาตรการ QE) ก็เป็นปัจจัยช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์ ด้วยเช่นกัน

-  ในวันศุกร์ (15 มิ.ย.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 32.41 เทียบกับ 32.06 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (8 มิ.ย.)   

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (18-22 มิ.ย.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 32.10-32.70 บาทต่อดอลลาร์ โดยจุดสนใจของตลาดในประเทศน่าจะอยู่ที่ท่าทีต่อทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของไทยจากกนง. (20 มิ.ย.) ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยและดัชนภาวะธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนมิ.ย. ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน และยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ค. นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด สถานการณ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า และตัวเลข PMI เบื้องต้นสำหรับเดือนมิ.ย. ของสหรัฐฯ ยูโรโซน และญี่ปุ่น

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย

-  ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นในช่วงสั้นๆ ก่อนที่จะร่วงลงอย่างต่อเนื่อง โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,704.82 จุด ลดลง 1.00% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่  มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันปรับลดลง 5.78% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 52,113.35 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ปิดที่ 461.71 จุด ทรงตัวจากสัปดาห์ก่อน

-  ดัชนีตลาดหุ้นไทยได้รับแรงหนุนช่วงสั้นๆ ต้นสัปดาห์ เช่นเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาค หลังการประชุมระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือสิ้นสุดลงโดยปราศจากประเด็นที่น่ากังวล ประกอบกับมีแรงซื้อเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มพลังงานและธนาคาร อย่างไรก็ดี ดัชนี SET กลับมาร่วงลงอย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ ท่ามกลางความกังวลต่อจังหวะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดที่มากขึ้นในช่วงที่เหลือของปี  ขณะที่ กลุ่มนักลงทุนต่างชาติยังคงมีสถานะขายสุทธิอย่างต่อเนื่อง

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (18-22 มิ.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,690 และ 1,675 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,720 และ 1,740 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ การประชุมนโยบายการเงินของกนง. การประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันโอเปก ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อื่นๆ ได้แก่ ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ค. ดัชนี PMI Composite (เบื้องต้น) และดัชนีภาวะธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนมิ.ย. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ดัชนี PMI Composite (เบื้องต้น) ของประเทศในแถบยุโรป และดัชนีราคาผู้บริโภคของญี่ปุ่น ตลอดจนสถานการณ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า