ปศุสัตว์เฝ้าระวังโรคพิษสุนัขบ้าระบาด หลายพื้นที่ทั่วประเทศ

ปศุสัตว์เฝ้าระวังโรคพิษสุนัขบ้าระบาด หลายพื้นที่ทั่วประเทศ

กรมปศุสัตว์ เฝ้าระวังโรคพิษสุนัขบ้าระบาดในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะใน 34 จังหวัดที่ได้ประกาศเขตโรคระบาดสัตว์ พร้อมเร่งฉีดวัคซีนให้ได้ตรงตามเป้าหมายกว่า 8 ล้านตัว

นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รักษาการแทนอธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยถึงความก้าวหน้าในการควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า ประจำวันที่ 14 มิถุนายน 2561 ว่า การฉีดวัคซีนให้แก่สุนัข-แมวซึ่งเป็นการบูรณาการระหว่างกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นและกรมปศุสัตว์ ที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ 8.24 ล้านตัว ได้มีการดำเนินการสะสมตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560 จนถึงวันนี้รวมทั้งสิ้น 6,696,143 ตัว โดยการฉีดวัคซีนรอบจุดเกิดโรคในรัศมี 5 กม.ได้ 100 % แล้ว และคาดว่าเมื่อถึงสิ้นปีจะได้ตามเป้าหมาย

สำหรับการผ่าตัดทำหมันซึ่งมีเป้าหมาย 300,000 ตัว มีการดำเนินการสะสมตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560 จนถึงวันนี้รวมทั้งสิ้น จำนวน 235,723 ตัว และทำการอบรมอาสาปศุสัตว์ด้านโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งตั้งเป้าไว้ 17,500 คน มีผลงานสะสมตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560 จนถึงวันนี้ จำนวน 54,239 คน ซึ่งเป็นอาสาจากท้องถิ่นละ 1-2 ราย ทำงานร่วมกับ อสม. นอกจากนี้ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้ขึ้นทะเบียนสุนัขและแมวแล้ว 9.1 ล้านตัว โดยยอดที่สำรวจสุนัข แมวในปีที่ผ่านมามี ประมาณ 10 ล้านตัว ส่วนการประกาศเขตโรคระบาดสัตว์ในช่วงมกราคม 13 มิถุนายน 2561 มีการประกาศเขตโรคระบาดชั่วคราว (ระยะเวลา 30 วัน) จำนวน 50 จังหวัด ปัจจุบันคงเหลือ 34 จังหวัด

นายสัตวแพทย์สรวิศ บอกว่า กรมปศุสัตว์มีเหตุผลความจำเป็นในการประกาศเขตโรคระบาด เพื่อสามารถกำหนดพื้นที่ควบคุมในระยะ 5 กิโลเมตรรอบจุดเกิดโรค ทำให้สามารถระบุชนิดสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ต้องควบคุมได้ทุกชนิด ห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์หรือซากสัตว์ตามประกาศเว้นแต่ได้รับอนุญาต และสัตวแพทย์สามารถสั่งดำเนินการกับสัตว์ป่วยหรือสงสัยว่าป่วยหรือสงสัยว่าเป็นพาหะของโรคระบาดได้ทันที