บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางกรุงมะนิลา พบหลอกลวงคนไทยมากกว่า 1 ปี

บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางกรุงมะนิลา พบหลอกลวงคนไทยมากกว่า 1 ปี

"พล.ต.ต.สุรเชษฐ์" พร้อมตำรวจฟิลิปปินส์ บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางกรุงมะนิลา พบหลอกลวงคนไทยมากกว่า 1 ปี

ตำรวจท่องเที่ยว ร่วมกับ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กระทรวงยุติธรรม ประเทศฟิลิปปินส์ บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ พบคนไทย 16 คน ทำหน้าที่โทรศัพท์หาเหยื่อปลายทางในไทย มีชายชาวไต้หวัน 3 คน เป็นผู้ควบคุมและสั่งการ

 

ภายใต้นโยบาย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ซึ่งได้จัดตั้งศูนย์ป้องกันและปรามปรามการฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบโทรศัพท์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. หัวหน้าชุดปฏิบัติการประจำศูนย์ฯ ขยายผลจากข้อมูลของกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ยังมีการหลอกลวงคนไทย จนทราบว่ามีเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ จึงได้ประสานงานผ่าน น.อ.(พิเศษ) พลวัตร อินทรวิเศษ ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารอากาศประจำกรุงมะลิลา ประเทศฟิลิปปินส์ และจัดส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการสืบสวนหาข่าวโดยทันที

 

จากการสืบสวนทราบว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ นี้ได้เปิดเป็นศูนย์ปฏิบัติการตั้งอยู่กลางใจเมือง เขตอาลาบัง กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ มีคนไทยหลายรายเป็นพนักงานโทรศัพท์ และมีชาวไต้หวันเป็นหัวหน้าควบคุม

 

 

ทลาย 'แก๊งคอลเซ็นเตอร์' กลางกรุงมะนิลา

 

ต่อมาเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2561 เวลาประมาณ 09.30 น. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท.หัวหน้าชุดปฏิบัติการประจำศูนย์ฯ พร้อมด้วย พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 บช.ทท., พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2 บช.ทท., พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ.บช.น. , พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย ผกก.สภ.โคกกลอย จ.พังงา ภ.8, พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.สส.บก.น.4 , พ.ต.ท.อาริศ คูประสิทธิ์รัตน์ รอง ผกก.สายตรวจ บก.สปพ., พ.ต.ท.ธัชพงศ์ วงศ์พัฒนานิวาศ รอง ผกก.สส. บก.น.1, พ.ต.ท.นฤวัต พุทธวิโร สว.งานสายตรวจ 1 กก.สายตรวจ บก.สปพ., พ.ต.ท.ศิลา ตันตระกูล สว.ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล.บช.ก., พ.ต.ต.นที คุ้มล้วนล้อม สว.งานสายตรวจ 2 บก.จร., ร.ต.ท.สถาพร เทศบรรทัด รอง สว.(อก.) ฝอ.6 บก.อก.บช.ทท. พร้อมนายบ๊อบบี้ รา เควโป้ หัวหน้าเจ้าหน้าที่สืบสวนหาข่าว พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กระทรวงยุติธรรมประเทศฟิลิปปินส์ ร่วมกับตำรวจท่องเที่ยว ได้บุกเข้าทลายแก๊งดังกล่าว

โดยพื้นที่เป้าหมายอยู่ในหมู่บ้านโพซาดัส วินเลส เขตอาราบัง กรุงมะนิลา หลังสืบทราบว่าเป็นศูนย์สั่งการคอลเซ็นเตอร์ ที่หลอกลวงคนไทยมากกว่าหนึ่งปี เป็นบ้านเดี่ยวสุดหรู 2 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิดเป็นอย่างดี แบ่งออกเป็นห้อง ซึ่งมีโต๊ะ พร้อมอุปกรณ์สื่อสารทั้ง คอมพิวเตอร์, โทรศัพท์มือถือ, ซิมโทรศัพท์พร้อมใช้งาน, สมุดบัญชีธนาคาร

 

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบโพยรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐระดับสูง รวมถึงบทพูดคุยระหว่างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กับ เหยื่อที่กำหนดไว้ เช่น จากหน่วยปราบปรามยาเสพติด หน่วยปราบปรามการฟอกเงิน นอกจากนี้ยังพบคนไทย 16 คน ทำหน้าที่โทรศัพท์หาเหยื่อปลายทางในประเทศไทย และมีชายชาวไต้หวัน 3 คน ทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมและสั่งการ

 

 

ทลาย 'แก๊งคอลเซ็นเตอร์' กลางกรุงมะนิลา

 

ในการหลอกลวงเหยื่อซึ่งแก๊งนี้เริ่มปฏิบัติการหลอกลวงคนไทยมากกว่า 1 ปี มีเหยื่อหลงกลโอนเงินให้เป็นจำนวนมาก โดยรายล่าสุดผู้เสียหายถูกหลอกลวงให้โอนเงินไปเกือบ 2,000,000 บาท ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี

 

นอกจากนี้ทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยังติดตั้งกล้องวงจรปิด ไว้รอบบ้านเพื่อดูความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ที่อาจเข้ามาตรวจสอบหรือบุกเข้าจับกุมอีกด้วย

 

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. กล่าวว่า สำหรับการบุกเข้าทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในประเทศฟิลิปปินส์ครั้งนี้ถือว่าเป็นศูนย์ปฏิบัติการที่มีขนาดใหญ่ เพื่อหลบหนีการตรวจสอบ กลุ่มนี้ได้เปลี่ยนวิธีการโอนเงิน เพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าไปกดเงินในประเทศไทย โดยหันมาใช้บริการอีแบงค์กิ้ง ในการรวบรวมเงินจุดเดียว ซึ่งสามารถทำรายการที่ไหนก็ได้

 

ขณะที่คนไทยซึ่งถูกควบคุมตัวที่นี่ ยอมรับว่า โทรศัพท์กลับไปหลอกลวงคนไทยในประเทศไทยจำนวนไม่น้อย ซึ่งบทสนทนาส่วนใหญ่ จะเป็นเรื่องของการส่งสินค้ากลับไปต่างแดน แต่ทั้งหมดยังอ้างว่า ถูกหลอกให้มาทำงาน ทั้งที่ตำรวจตรวจสอบการเดินทาง พบว่าหลายคนเข้าออกระหว่างไทยและฟิลิปปินส์ หลายครั้งแล้ว

 

 

ทลาย 'แก๊งคอลเซ็นเตอร์' กลางกรุงมะนิลา

 

 

               นอกจากนี้ การทำงานปราบปรามระหว่างประเทศ ทางการฟิลิปปินส์ให้ความร่วมมือช่วยตามรอยเบาะแสและพิกัดที่ตั้ง และยังให้ตำรวจท่องเที่ยวของไทย พร้อมชุดสายสืบเข้าร่วมจับกุมด้วย ถือเป็นการทำงานตามแนวทาง วันเวิลด์ วันทีม หรือตำรวจหนึ่งเดียวทั่วโลก