ดัชนีส่อพักฐานต่อเนื่อง หลังเฟดขึ้นดอกเบี้ยดึงเงินไหลออก

บล.กรุงศรี เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นปรับตัวลง 8.95 จุด (-0.52%) ปิดที่ 1,718 จุด มูลค่าการซื้อขาย 43,222 ล้านบาท จากแรงขายลดความเสี่ยงก่อนการประชุม เฟดที่คาดว่าจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีก 0.25% รวมถึงติดตามการส่งสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยในครั้งถัดไปซึ่งจะส่งผลต่อทิศทาง เงินทุน ต่างชาติ ทั้งนี้เป็นแรงขายกลุ่ม พลังงานและปิโตรเคมี อย่างไรก็ตามนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 4,327 ล้านบาท ,ขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 764 ล้านบาท และ Net Short TFEX 9,329 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ มีมุมมองเป็นลบ คาดดัชนีอ่อนตัวทดสอบ 1,710 จุดก่อนจะสลับรีบาวด์ เนื่องจาก เฟด มีมติปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ 1.75 – 2% และส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งรวมเป็น 4 ครั้งในปีนี้ (คาดปรับขึ้นในเดือนก.ย.และธ.ค.) และปรับขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีหน้า ซึ่งส่งผลให้ bond yield 10 ปีสหรัฐดีดตัวขึ้น รวมถึง เงินทุนต่างชาติมีแนวโน้มไหลออกต่อไป นอกจากนี้ความกังวลสงครามการค้าจะเป็นอีกปัจจัยที่กดดันตลาดโดยสหรัฐเตรียมประกาศรายชื่อสินค้าจีน 1,300 รายการที่จะเก็บภาษีนำเข้า 25% มูลค่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ ในวันที่ 15 มิ.ย.และมาตรการจำกัดการลงทุนเทคโนโลยีจากจีนในวันที่ 30 มิ.ย.

อย่างไรก็ตาม คาดว่าดัชนีจะมีสลับเด้งรีบาวด์ได้จากแรงหนุนกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นจากตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงมากกว่าคาดโดยลดลง 4.1 ล้านบาร์เรล ทั้งนี้ต้องติดตามการประชุม อีซีบี (14 มิ.ย. : คาดลดการใช้ QE ลงจากปัจจุบันที่ 30,000 ล้านยูโร/เดือนซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนก.ย. )