ดาวโจนส์ปิดลบหลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยอีก2ครั้ง

ดาวโจนส์ปิดลบหลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยอีก2ครั้ง

เมื่อเทียบรายปี ดัชนีพีพีไอ พุ่งขึ้น 3.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2555 หลังจากเพิ่มขึ้น 2.6% ในเดือนเม.ย.

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดตลาดวันพุธ(13มิ.ย.)ตามเวลาสหรัฐ ปรับตัวลง 119.53  จุดหรือ 0.47% ปิดที่ 25,201.2 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500  ร่วงลง 11.22 จุดหรือ 0.40% ปิดที่ 2,775.63  จุดและดัชนีแนสแด็ก ลบ 8.10 จุดหรือ 0.11% ปิดที่ 7,695.70 จุด

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 1.75-2.00% ในการประชุมวันพุธ ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้

การปรับอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว นับเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ หลังจากปรับขึ้นครั้งแรกในเดือนมี.ค. และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 7 นับตั้งแต่เฟดเริ่มวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.2558

นอกจากนี้ เฟดยังได้ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยคาดว่าจะปรับขึ้นในเดือนก.ย. และธ.ค. ส่งผลให้มีการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 4 ครั้งในปีนี้

ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังเกาะติดการประชุมธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในวันพฤหัสบดี ตามเวลาท้องถิ่น โดยคาดว่าอีซีบีจะส่งสัญญาณปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) จากระดับ 3 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน ซึ่งมีกำหนดสิ้นสุดในเดือนก.ย. และตลาดยังรอผลการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ในวันที่ 14-15 มิ.ย.

ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) ดีดตัวขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ค.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนเม.ย. ซึ่งการปรับตัวขึ้นของดัชนีพีพีไอได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน และค่าใช้จ่ายในภาคบริการ