'สุวพันธุ์' ยันจนท.ดำเนินดคีเงินทอนวัดตาม กม. ไร้อคติ

'สุวพันธุ์' ยันจนท.ดำเนินดคีเงินทอนวัดตาม กม. ไร้อคติ

“สุวพันธุ์” ยัน จนท. ดำเนินดคีเงินทอนวัด ตามกฎหมาย พระธรรมวินัย ไร้อคติ แนะปชช. อย่าเชื่อข่าวลวงในโซเชี่ยล ถ้าเชื่อทุกอย่างสังคมก็วุ่นวาย

นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงกรณีที่มีเสียงวิจารณ์ว่า การดำเนินการคดีเงินทอนวัด มีประเด็นทางการเมืองเกี่ยวข้องว่า ตนยืนยันว่าการสอบสวนรวมถึงการดำเนินการ ไม่มีอคติ หรือวาระซ่อนเร้น ยืนยันว่าการดำเนินการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทั้ง ตำรวจ, ป.ป.ท. และป.ป.ช. ได้ทำตามหน้าที่ ตามข้อเท็จจริงที่มี โดยการที่ตนได้ลงพื้นที่ ครม.สัญจร ครั้งนี้ก็ได้พบกับคณะสงฆ์ในพื้นที่ โดยได้ถวายข้อเท็จจริง ให้ท่านได้เข้าใจ และสบายใจได้ว่าทางฝ่ายรัฐทำไปตามอำนาจหน้าที่ อยากให้เรื่องที่เกี่ยวกับคณะสงฆ์และวัด เป็นไปตามหลักกฎหมายและหลักพระธรรมวินัย ดังนั้นเรายืนยันว่าเราไม่มีอคติแน่นอน

เมื่อถามว่าทางรัฐบาล ได้ประเมินสถานการณ์หรือไม่ว่า ทางฝ่ายผู้เสียประโยชน์จะเคลื่อนไหวต่อกรณีนี้หรือไม่ นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า หลายคนได้รับข้อมูลจากโลกโซเชี่ยลออนไลน์ ที่มีการส่งข้อมูลกันมา ซึ่งเป็นความเท็จเสียส่วนใหญ่ โดยเฉพาะการระบุว่ามีวาระซ่อนเร้น หรือต้องการทำลายศาสนา ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลต้องการก็คือทำทุกอย่างให้เข้าระบบ หรืออย่างกรณีที่ ผอ.พศ. มีหนังสือขอบัญชีรายรับ-รายจ่ายของวัด ก็มีการปล่อยข่าวว่ารัฐบาลจะไปยึดเงิน ซึ่งไม่เป็นความจริง แต่สิ่งที่รัฐบาลต้องการคือ ทำให้บัญชีของวัด และบัญชีของพระสงฆ์ เป็นไปด้วยความชอบธรรม บางวัดที่ทำเป็นตัวอย่างที่ดี ก็อยากให้มาเป็นบทเรียน มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทำให้ถูกต้อง ญาติโยมที่มาทำบุญ เพื่อใช้ในกิจการของวัด ก็ให้ใส่บัญชีให้ถูกต้อง เพียงแค่นี้เอง ทั้งนี้ฝ่ายความมั่นคงได้ดูแลเรื่องการเคลื่อนไหวต่อกรณีนี้อยู่แล้ว ตนเจ้าใจว่าเขามีข้อมูลว่า ใครเป็นใคร หรือทำอะไรอยู่

เมื่อถามถึงกรณีที่ นายพิสิฐชัย สว่างวัฒนากร พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ระบุว่าจะมีการขยายผลไปยังวัดดังนั้น นายสุวพันธุ์กล่าวว่า ทางตำรวจได้ชี้แจงแล้วว่าไม่เป็นข้อเท็จจริง ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีรายงานเรื่องที่เป็นกระแสข่าว อยากให้ทุกคนสบายใจกัน และช่วยดูข้อมูลด้วยเหตุและผล ดูความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น ถ้าไปเชื่อทุกอย่าง สังคมก็จะชุลมุนวุ่นวาย ในส่วนความคืบหน้าการดำเนินคดีเงินทอนวัดล็อตที่ 4 นั้น นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า ตนไม่อยากให้เรียกเป็นล็อต เพียงแต่เจ้าหน้าที่ทำไปตามข้อมูลพยานหลักฐาน ขณะนี้ทำได้แค่นี้ ก็มีการดำเนินการไปตามนี้ ตนเข้าใจว่ากำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการ ซึ่งตนได้เห็นข่าวแล้วว่ามีบางวัดในบางพื้นที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ก็ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ดำเนินตามกฎหมาย ข้อเท็จจริง และพยานหลักฐาน ยืนยันว่ากลั่นแกล้ง หรือเลือกปฏิบัติ

ส่วนกรณีข้อกังวลว่าจะมีม๊อบพระ หรือกำแพงมนุษย์มาปกป้องนั้น นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าถ้าเราหวังดีกับประเทศชาติ ถ้าทำอะไรที่เป็นประโยชน์ ก็จะไม่เกิดความวุ่นวาน ตนมั่นใจเช่นนั้น

เมื่อถามถึงความคืบหน้าการในติดตามตัว อดีตพระพรหมเมธี จากประเทศเยอรมนีมาดำเนินคดี นายสุวพันธุ์ กล่าวเพียงสั้นๆว่า “ไม่ทราบ”