รัฐคุมเข้มระบายข้าวในสต็อก เข้าสู่อุตสาหกรรมที่แจ้งไว้อย่างเคร่งครัด

รัฐคุมเข้มระบายข้าวในสต็อก เข้าสู่อุตสาหกรรมที่แจ้งไว้อย่างเคร่งครัด

อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เผยภาครัฐคุมเข้ม ระบายข้าวในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรม ต้องเป็นไปตามที่แจ้งรับรองตนเองอย่างเคร่งครัด

กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศ ได้เปิดให้ผู้ประกอบการเข้าร่วมยื่นซองเอกสารคุณสมบัติผู้เสนอซื้อข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ครั้งที่ 1/2561 และเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ ครั้งที่ 1/2561 เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2561 โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมยื่นซองเป็นจำนวนมาก และคณะกรรมการ นบข. ได้กำชับให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) คุมเข้มกำกับดูแลให้ผู้ซื้อนำข้าวในสต็อกของรัฐไปใช้ในอุตสาหกรรมตามที่แจ้งไว้โดยเคร่งครัด

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า จากการที่รองประธานกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) (พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ) รับคำสั่งประธานกรรมการ นบข. (พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา) ได้เห็นชอบการออกประกาศจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ครั้งที่ 1/2561 ปริมาณ 1.49 ล้านตัน และเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ ครั้งที่ 1/2561 ปริมาณ 0.54 ล้านตัน กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศ ได้เปิดให้ผู้ประกอบการเข้าร่วมยื่นซองเอกสารคุณสมบัติการจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรม เมื่อวันที่11 มิถุนายน 2561 ดังนี้ 

การจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ครั้งที่ 1/2561 มีผู้สนใจยื่นซองเอกสารคุณสมบัติ จำนวน 26 รายการจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ ครั้งที่ 1/2561 มีผู้สนใจยื่นซองเอกสารคุณสมบัติ จำนวน 15 ราย


โดยการระบายข้าวดังกล่าวทั้ง 2 กลุ่ม คณะกรรมการ นบข. ได้ให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลการนำข้าวในสต็อกของรัฐไปใช้ในอุตสาหกรรม เพื่อป้องกันการรั่วไหลเข้าสู่ระบบการค้าปกติเป็นอย่างมาก เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์ข้าวมีทิศทางที่ดี โดยเป็นที่ต้องการของตลาด คณะกรรมการ นบข. จึงได้กำชับให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) กำหนดมาตรการ และกำกับดูแลให้ผู้ซื้อนำข้าวที่ประมูลได้ไปใช้ในอุตสาหกรรมตามหนังสือรับรองตนเองที่ยื่นไว้กับกรมการค้าต่างประเทศโดยเคร่งครัด ซึ่งหากผู้ซื้อไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข มีการนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายจนถึงที่สุด


สำหรับขั้นตอนต่อไป ภายหลังจากยื่นซองเอกสารคุณสมบัติ คณะทำงานรับซองเสนอราคาซื้อ ผู้แทนจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมโรงงานอุตสาหกรรมจะร่วมกันตรวจสอบเอกสารหลักฐานและคุณสมบัติเบื้องต้นของผู้เสนอซื้อทุกรายตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขคุณสมบัติผู้เสนอซื้อที่ประกาศคณะทำงานฯ กำหนด ซึ่งหากปรากฏภายหลังว่าผู้เสนอซื้อรายใดขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามที่ประกาศฯ กำหนดจะถือว่าผู้เสนอซื้อรายนั้นขาดคุณสมบัติมาตั้งแต่ต้น และไม่สามารถยื่นเสนอซื้อข้าวในสต็อกของรัฐได้อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่ากรมฯ จะประกาศรายชื่อผู้เสนอซื้อที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้นในการจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ครั้งที่ 1/2561 ในวันที่ 14 มิถุนายน 2561 เวลา 09.00 น. และเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ ครั้งที่ 1/2561 วันที่ 15 มิถุนายน 2561 เวลา 09.00 น. หรือทางเว็บไซต์ของกรมการค้าต่างประเทศ www.dft.go.th ทั้งนี้ ผู้ที่มีรายชื่อผ่านคุณสมบัติเบื้องต้นสามารถยื่นซองเสนอซื้อได้ในวันเดียวกันกับวันประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้นของการจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐแต่ละประเภท ตั้งแต่เวลา 09.00 12.00 น. จากนั้นตั้งแต่เวลา 12.30 น. เป็นต้นไป กรมฯ จะดำเนินการเปิดซองเสนอซื้อต่อหน้าสาธารณชนและสื่อมวลชน ณ ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 3 อาคารกองมาตรฐานสินค้านำเข้าส่งออก กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และจะประมวลผลการยื่นซองเสนอซื้อข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าที่ประชุมคณะทำงานฯ และคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว เพื่อนำเสนอประธานกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป