'ประยุทธ์' อ้อนคนพิจิตร บอกอยู่ใกล้หัวใจ วอนร่วมมือถึงจะเดินหน้าได้

'ประยุทธ์' อ้อนคนพิจิตร บอกอยู่ใกล้หัวใจ วอนร่วมมือถึงจะเดินหน้าได้

"พล.อ.ประยุทธ์ " บอกชาวพิจิตร มาสร้างอนาคตร่วมกัน ยันไม่ได้หาเสียง อ้อนอยู่ใกล้หัวใจ วอนร่วมมือทุกอย่างจะเดินหน้าได้ใช้ ม.44 ไม่สร้างสรรค์

เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.61 เวลา 10.10 น. ที่ บึงสีไฟ อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. พร้อมคณะได้เดินทางมาพบประชาชนและเยี่ยมชมกิจกรรมการพัฒนาพิจิตรจังหวัดคุณธรรมและการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวบึงสีไฟ โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับประชาชนว่าวันนี้ มาเพื่อสร้างอนาคตร่วมกันว่าเราต้องการให้ประเทศไทยเป็นอย่างไรเราต้องช่วยกันขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดความสุขแก่ทุกๆ คน แม้จะมีรายได้น้อยแต่ถ้าเรามีความสุขทุก อย่างไรก็ตาม การมาพบปะเยี่ยมเยียนประชาชนครั้งนี้ไม่ได้มาหาเสียงแต่เพื่อติดตามความก้าวหน้าในแผนและโครงการต่างๆ พร้อมปรับให้สอดคล้องกับความต้องการในพื้นที่เพราะมีหลายอย่างที่ยังไม่เข้าใจตรงกันมีทั้งโครงการที่ทำได้ และยังทำไม่ได้และอยากให้ทุกคนช่วยกันดูว่ารัฐบาลนี้ทำงานแตกต่างจากที่ผ่านมาอย่างไรบ้าง

“ถึงพิจิตรแม้จะเป็นเมืองเล็ก แต่น่ารักสามารถพัฒนาต่อยอดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเป็นเมืองแห่งความสุขได้ผมมาวันนี้ในนามของนายกฯ ที่จะดูแลคนทั้งประเทศทุกจังหวัดวันนี้ผมใส่เสื้อประเทศไทยมาพิจิตรเป็นเมืองที่อยู่ใกล้หัวใจผมที่สุดผมพยายามถ่ายทอดความรู้สึกทุกอย่างออกมานายกฯคนเดียวมีสองแขนสองมือมีหัวใจดวงเดียวทำได้หนึ่งอย่าง เก็บขยะก็ได้ชิ้นเดียวแต่ถ้าทุกคนร่วมมือกันเป็นพันๆ มืองานทุกอย่างจะเดินหน้าต่อไปได้ถ้าเรามีหัวใจที่ยิ่งใหญ่เป็นกำลังใจให้กันและกันก็เป็นเรื่องที่ดีกว่าที่จะทำอะไรคนเดียวเพราะมันจะว้าเหว่ถ้าเราเอาหัวใจมารวมกันเอามือมาช่วยกันทุกอย่างก็จะไปได้ส่วนคนไม่ดีกฎหมายก็ดำเนินการอยู่จึงต้องจัดระเบียบเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมเราไม่ได้จะแกล้งใครหรือแกล้งผู้มีรายได้น้อยแต่ต้องไม่ปล่อยให้บ้านเมืองไม่มีขื่อมีแป”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เราต้องเดินหน้าบ้านเมืองอย่างมั่นคงมั่งคั่ง และยังยืนการแก้ปัญหาแบบเร็วและหวือหวาจะไม่สำเร็จแต่จะล้มกลับมาที่เดิมในการทำงานรัฐบาลได้รับฟังเสียงจากทุกฝ่ายไปถึงสื่อโซเชียลด้วยมาครั้งนี้ไม่ได้มาอย่างที่สื่อวิพากษ์วิจารณ์กันเพราะสื่อบางสำนักได้พาดหัวว่าจะให้งบประมาณหลายหมื่นล้านบาท ยืนยันว่าไม่เป็นความจริงเพราะรัฐบาลจะต้องดูว่ามีงบประมาณเพียงใดโครงการใดเร่งด่วนโดยต้องดูว่าโครงการเหล่านั้นตอบสนองความต้องการของประชาชนมากน้อยเพียงใด แต่ชาวพิจิตรไม่ต้องน้อยใจเพราะอะไรเร่งด่วนก็จะได้ก่อนไม่มีทางที่จะได้ในครั้งเดียวอยู่แล้ว

“ ทุกคนต้องรักษาสิทธิ์ตัวเองในช่องทางที่ถูกต้องข้อมูลที่ถูกต้องด้วยเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีจะตัดสินใจเชื่อหรือไม่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบหากสงสัยต้องถามเพราะมีศูนย์ดำรงธรรมช่องทางลุงตู่สายด่วน 1111 มีอยู่แล้ว สองปีที่ผ่านมาเรื่องร้องเรียนจากศูนย์ดำรงธรรมมีมากว่า 2 ล้านเรื่องซึ่งช่วงนี้ลดลงไปมากหากนับจาก 4 ปีที่เข้ามารัฐบาลได้แก้ไขในพื้นที่ไปบ้างแล้ว ไม่เหมือนแต่ก่อนที่ไม่มีใครสนใจแม้วันนี้ยังแก้ปัญหาไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ยังต้องใช้เวลาเพราะปัญหาพอกมานานแต่ก็ดีกว่าไม่ได้ทำอะไร” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งที่เป็นปัญหาในขณะนี้หลายคนอยากให้ใช้กฎหมายที่รุนแรง อย่าง ม.44 ซึ่งตนคิดว่าไม่สร้างสรรค์เพราะถ้าทุกคนพร้อมใจเดินไปพร้อมกับตนก็จะแก้ไขปัญหาได้ยืนยันว่าไม่ได้มุ่งหวังสิ่งอื่นอย่างที่มีการวิพากษ์วิจารณ์และตนของไม่สามารถรังเกียจใครได้เพราะทุกคนเป็นคนไทยด้วยกันตราบใดที่ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ก็ต้องคุยกับทุกคนได้ขอให้ทุกคนระมัดระวังในข้อกฎหมาย

“การอนุมัติงบให้แต่ละพื้นที่ ไม่ใช่เงินนายกแต่เป็นเงินส่วนกลางซึ่งต้องมีมาตรการต่างๆรองรับและงบประมาณที่จะอนุมัติให้จังหวัดพิจิตรนั้นไม่สามารถบอกเป็นตัวเลขได้เพราะไม่ต้องการเอาเรื่องนี้มาเป็นการหาเสียงจึงไม่ต้องกังวลเพราะการลงทุนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการหาเสียงแม้หลายคนจะมองแต่เรื่องแบบนี้ ซึ่งมันไม่ใช่ผมไม่ต้องการซื้อเสียงแม้ไม่มีเสียงให้แม้แต่คนเดียวก็พร้อมที่จะทำงานให้ประเทศไทยเพราะที่นี่คือประเทศไทยเป็นของคนไทยทุกคนที่จะต้องคิดถึงจิตใจคนอื่นด้วยอย่ากินขนมโดยไม่แบ่งเพื่อนเราต้องมีความรักความสามัคคีเหมือนเอาแขนงไผ่ทุกแขนงมารวมกันใครๆก็หักไม่ได้นอกจากนี้ยังต้องมีคุณธรรม จริยธรรม อุดมการณ์จิตอาสา และความรับผิดชอบเคารพกฎหมายด้วยแต่ถ้าทุกคนบอกว่าอะไรก็ต้องเป็นประชาธิปไตยมันไม่ได้การเป็นประชาธิปไตยต้องมีกฎหมายไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนถ้าไม่ไปแตะต้องหรือดื้อด้านต่อสู้ก็จะไม่มีเรื่องวันนี้มีหลายคนพยายามจะให้มีเหตุการณ์เกิดขึ้น แต่ผมไม่บอกว่าเป็นใครผมมาให้ความสำคัญเพราะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย” นายกฯ กล่าว