นายกฯ ชี้ 4 ปีฟังเสียงปชช. ย้ำเป้าหมายคืนความสุขให้คนในชาติ

นายกฯ ชี้ 4 ปีฟังเสียงปชช. ย้ำเป้าหมายคืนความสุขให้คนในชาติ

"พล.อ.ประยุทธ์" ชี้จิ้งจกทักยังต้องฟัง นับประสากับเสียงประชาชน ยันนำความเห็นสู่กระบวนการแก้ไขอยู่ตลอดระยะเวลา 4 ปี

เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวผ่านรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ตอนหนึ่งว่า สุภาษิตโบราณกล่าวว่า "จิ้งจกทัก” เรายังต้องฟัง ฉะนั้นทุกเสียง ทุกความเห็นจากประชาชนเจ้าของประเทศ ตน รัฐบาลและคสช.ได้ยินและได้นำมาสู่แก้ไขตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เพราะเป้าหมายของเรา คือ การคืนความสุขให้กับคนในชาติ ดังนั้นเสียงสะท้อนจากโพล หรือเสียงบ่นในใจก็ขอให้ถ่ายทอดมาผ่านสายด่วนต่างๆ ตามที่ตนได้เคยบอกไปแล้วหลายครั้ง ทั้ง 1111 และศูนย์ดำรงธรรม 1567 รวมทั้ง “สายด่วนไทยนิยม”  ซึ่งตนดีใจที่หลายเรื่องได้รับการแก้ไข แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็จะไม่ถูกมองข้าม แต่เรื่องยากๆ ซับซ้อน ก็ต้องขอเวลาให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทำงาน 

"หลายเรื่องซุกอยู่ใต้พรม คนรู้เบาะแสก็ไม่กล้าเปิดเผยเพราะกลัวภัยจะมาถึงตัว ก็ถูกหยิบขึ้นมาสู่สังคม แล้วรัฐบาลนี้ก็เอาจริงเอาจังในบังคับใช้กฎหมาย  อาทิ เรื่องอาหารกลางวันเด็ก ขนมจีนน้ำปลา เรื่องเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้-ผู้ประสบภัย เรื่องกองทุนเสมา ไปจนถึงเรื่องเงินทอนวัด แม้กระทั่ง ความเดือดร้อนจากโครงการพัฒนาต่างๆ เราพยายามแก้ไขมาตามลำดับ ก็ขอให้ทุกคนสามารถแจ้งตามช่องทาง อย่าทำให้เสียเวลา อย่าโทรมาโดยที่ไม่มีความจำเป็น มารบกวน มาว่ากล่าวเจ้าหน้าที่ บางที่ก็ไม่ได้ประโยชน์เท่าไร" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์  ยังกล่าวอีกว่า สำหรับปัญหาเชิงโครงสร้าง หรือการปฏิรูปเรื่องใหญ่ๆ ต้องอาศัยเวลาในการผลิดอก ออกผล ซึ่งวันนี้เราลงทุนเพื่ออนาคตจำนวนมาก นอกจากจะเป็นการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนแล้ว ก็ยังเป็นการสร้างโอกาส สร้างสิ่งดีๆ เพื่อวันข้างหน้า อาทิ การเร่งสร้างรถไฟฟ้าเกือบ 10 สายในวันนี้ เพราะที่ผ่านมาเดินหน้าไม่ได้ อาจทำให้รถติดก็คงต้องอดทน เพื่อความสะดวกสบายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า รวมถึงการสร้างโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(อีอีซี)ที่จะเริ่มทยอยเห็นผล จะมีการจ้างงานหลายหมื่นอัตราในหลายสาขา จะมีการใช้วัตถุดิบในประเทศ กว่า 5 หมื่นล้านบาทต่อปี จะมีการส่งออกสร้างรายได้เข้าประเทศ กว่า 7 หมื่นล้านบาทต่อปี ซึ่งทุกคนที่เป็นคนไทยจะได้รับอานิสงส์และโอกาสร่วมกัน 

"ลองมองย้อนไปนะยุคโชติช่วงชัชวาล เมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา วันนี้เหมือนเรากำลังกินบุญเก่าอยู่ เมื่อใกล้จะหมดลง ประเทศเราก็จะมีอีอีซีเข้ามาทดแทน วันนี้ผมต้องการทำเพื่อลูก หลาน เพื่อคนรุ่นใหม่ ที่กำลังจะเติบโตขึ้นมา วันนี้แม้อาจจะยังไม่เห็นผล ก็ไม่เป็นไร แต่อีก 3 ปี ข้างหน้าเป็นต้นไป เมื่อโครงการต่างๆ ทยอยเสร็จสมบูรณ์ ท่านก็จะได้รู้ว่าสิ่งที่ผมพูดตอนนี้เป็นความจริง และเป็นการสนองตอบสัญญาใจที่เรามีไว้ต่อกัน"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว