สช.เร่งตรวจสอบนมร.ร.ไผทอุดมศึกษา คาด 2 วันรู้ผล

สช.เร่งตรวจสอบนมร.ร.ไผทอุดมศึกษา คาด 2 วันรู้ผล

สช.ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบหลังโรงเรียนไผทอุดมศึกษา แจ้งผู้ปกครองขอให้ นร.งดดื่มนม เหตุพบนมมีลักษณะขุ่นข้น ทั้งที่ข้างกล่องไม่หมดอายุ คาด 1-2 วันรู้ผล หากมีความผิดปกติจะประสาน อสค.เข้าตรวจสอบ

เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.61 นายชลำ อรรถธรรม รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) เปิดเผยถึงกรณีโรงเรียนไผทอุดมศึกษำหนังสือแจ้งผู้ปกครองของดการดื่มนมโรงเรียน เนื่องจากพบว่านมหลายกล่องมีการแสดงเลขข้างกล่องยังไม่หมดอายุ แต่สภาพทางกายภาพของนม ขุ่นข้น เปลี่ยนไปจากสภาพปกติ โรงเรียนจึงกังวลคุณภาพของนมกล่องอื่นๆ จึงเป็นห่วงสุขภาพของนักเรียนและเพื่อความปลอดภัยของดดื่มนมตามโครงการอาหารเสริม (นม )โรงเรียนของกระทรวงศึกษาธิการ จนกว่าจะมีการแก้ไขได้คำตอบที่ชัดเจนจาก ศธ.ว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยไปดูว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากอะไร นมของโรงงานดังกล่าวมีปัญหาตามที่มีโรงเรียนพบจริงหรือไม่คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 1-2 วันนี้

ทั้งนี้ สช.มีหน้าที่จัดสรรงบประมาณให้แก่โรงเรียน แต่โรงเรียนจะเป็นผู้เลือกโรงงาน/บริษัทเองตามรายชื่อที่แจ้งไว้ ซึ่งอยู่ในการรับรองขององค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อสค.) ซึ่งกรณีนี้หากตรวจสอบพบว่า โรงงานดังกล่าวมีปัญหาในการผลิตและทำให้คุณภาพนมมีปัญหาจริงนั้น ต้องประสาน อสค.ช่วยดำเนินการตรวจสอบและขยายผลไปดูแจ้งให้โรงเรียนอื่นๆที่มีการซื้อนมจากโรงงานดังกล่าวต่อไป

สำหรับนักเรียนโรงเรียนเอกชนกลุ่มโรงเรียนสามัญในระบบ ก็จะได้รับการดูแลเรื่องอาหารกลางวัน และนมเช่นเดียวกับเด็กโรงเรียนรัฐ ต่างกันที่อาหารกลางจะดำเนินการแค่เฉพาะกลุ่ม คือ เด็กปฐมวัย เด็กมีภาวะทุพโภชนาการ เด็กในโรงเรียนเอกชนการกุศล ส่วนนมจะให้กับเด็กทุกคนตั้งแต่ปฐมวัย-ประถมศึกษา โดยสช.จะตั้งงบประมาณและจัดสรรไปให้กับโรงเรียนเป็นผู้ดำเนินการ โดยในปีงบประมาณ 2561 ค่าอาหารกลางวันใช้งบประมาณ 1,867,648,000 บาท สำหรับเด็ก 466,912 คน ส่วนนม อยู่ที่ 2,899,098,100 บาท สำหรับเด็กปฐมวัย 524,617 คน และประถม 1,020,387 คน รวม 1,545,004 คน