ป.ป.ท. ชงศธ.เบรคโครงการจัดซื้อคุรุภัณฑ์สพฐ.

เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.61 พ.ต.ท.สามารถ ไชยณรงค์ ผอ.สำนักป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) เขต 3 เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบปัญหาการทุจริตโครงการต่างๆ ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)ในเขตพื้นที่ภาคอีสานว่า แม้ว่าขณะนี้จะยังไม่มีการทำสัญยาจัดซื้อจัดจ้าง แต่จากการสุ่มตรวจสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) จ.ยโสธร และจ.ศรีษะเกษ พบว่า มีข้อพิรุธในหลายประเด็น เช่น การจัดสรรซื้อครุภัณฑ์พัฒนาทักษะ ม.ต้น ชุดอุตสาหกรรม จำนวน 24 รายการ งบประมาณ 600,200 บาท ที่ใช้ระบบอีบิทดิ้งในการประมูล ซึ่งบริษัทที่ชนะการประมูลในโรงเรียนต่างๆจะเป็นบริษัทเดิมๆ บางโรงเรียนไม่ต้องการครุภัณฑ์พัฒนาทักษะพิเศษ แต่สพฐ.ได้เสนอและจัดสรรมาให้เอง หรือโรงเรียนบางแห่งเสนอครุภัณฑ์มาแต่ได้รับอนุมัติไม่ตรงกับที่เสนอขอไป บางกรณีมีบริษัทเข้ามาจัดซื้อจัดจ้าง แต่ขั้นจัดสรรงบฯ กลับเปลี่ยนแปลงรายการ จึงต้องจัดซื้อจัดจ้างใหม่ ซึ่งกระบวนดังกล่าวเพิ่งเริ่มต้นและยังไม่มีการทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง ขณะที่สพฐ.ก็ยังไม่ได้มีการโอนงบประมาณในการจัดซื้อมาให้ ดังนั้นการกระทำทุจริตจึงยังไม่เกิดขึ้น

พ.ต.ท.สามารถ กล่าวอีกว่า สำหรับการตรวจสอบรายการจัดซื้อครุภัณฑ์ยังพบด้วยว่า ครุภัณฑ์ส่วนใหญ่มีราคาแพงกว่าท้องตลาด ไม่คุ้มค่าไม่สมราคาและไม่สมเหตุสมผล ถึงแม้จะการจัดซื้อจะยังไม่เกิดขึ้นจริงแต่มองได้ว่าในอนาคตมีการกระทำในลักษณะดังกล่าวก็จะทำให้เกิดปัญหาการทุจริตได้ ตนจะทำรายงานผลการสุ่มตรวจข้อเท็จจริงเบื้องต้นไปยัง พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ เลขาธิการสำนักงานป.ป.ทและเลขาธิการสำนักงานฯสพฐ และกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้รับทราบ ทบทวนความจำเป็นและขอให้ระงับยับยั้งโครงการดังกล่าวไว้ก่อนเพื่อเป็นการป้องปราม เนื่องจากพบว่าในหลายพื้นที่และหลายจังหวัดมีบริษัทซึ่งเป็นที่รู้จักของผู้เกี่ยวข้องในวงการศึกษาเข้าไปผูกขาด จึงทำให้ได้เข้าไปประมูลจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์และครุภัณฑ์ ในบางพื้นที่มี 10 โรงเรียน แต่ได้รับอนุมัติโครงการ 7 โรงเรียน ซึ่งไม่เป็นธรรมกับบริษัทอื่นๆ

ทั้งนี้ โรงเรียนในพื้นที่จังหวัดภาคอีสาน เขตพื้นที่การศึกษาที่ 11 มีจำนวนรวม 458 โรงเรียบ งบฯทั้งสิ้น 279 ล้านบาท