MORNING CALL ACTION NOTES (8 มิ.ย.61)

MORNING CALL ACTION NOTES (8 มิ.ย.61)

ไปไหนไม่ไกล

SET Index วานนี้ทรงตัวแดนบวกช่วงเช้าก่อนอ่อนตัวต่อเนื่องช่วงบ่าย กดดันโดยกลุ่ม ENERG หลังราคาน้ำมันทำจุดต่ำสุดรอบ 2 เดือน รองลงมาเป็น BANK หลังมีกระแสความกังวล ธปท.ไม่อนุมัติการเลื่อนบังคับใช้บัญชีเดียวของ SME ขณะที่มีแรงหนุนมาชดเชยบางส่วนจาก PETRO และหุ้นขนาดกลางที่ปรับตัวลงแรงก่อนหน้า อาทิ CBG DDD และ BEAUTY โดยรวม SET Index ปิดที่ 1,733.05 จุด (-5.65 จุด) Volume 5.97 หมื่นลบ. เป็น Foreign Net -2,424.66 ลบ.  TFEX Net -1,047 สัญญา ตราสารหนี้ +3,447.35 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย  

+ดาวโจนส์ปิดบวกโดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งของหุ้นแมคโดนัลด์ หลังจากบริษัทประกาศแผนปรับโครงสร้างองค์กร

+น้ำมันขึ้นเนื่องจากยอดส่งออกที่ลดฮวบของเวเนซุเอลา อีกทั้งโอเปกอาจไม่เพิ่มกำลังผลิต

+สหรัฐบรรลุข้อตกลงกับบริษัท ZTE ของจีนแล้ว หลังเสนอเงื่อนไขเปลี่ยนกรรมการและวางเงินมัดจำ 400 ล้านดอลลาร์เพื่อแลกยกเลิกมาตรการลงโทษ

+ผู้ขอสวัสดิการว่างงานสหรัฐลดลง 1,000 ราย สู่ระดับ 222,000 ราย

+สนช.ลงมติรับหลักการวาระแรกร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 62 วงเงิน 3 ล้านล้านบาท +3.4% เป็นงบประมาณขาดดุล 4.5 แสนล้านบาท คาด GDP ขยายตัว 3.9-4.9% จากการใช้จ่ายในปท.-ลงทุนเอกชนและรัฐหนุน

+EXIM BANK ปรับเพิ่มคาดการณ์ส่งออกปี 61 โต 7-9% หลังแนวโน้มศก.ตลาดต่างประเทศขยายตัวมากกว่าคาด

+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 1.35 แสนล้านบาท ค่าเงินบาท32.02 บาท/USD

**จับตา 12-13 มิ.ย.  ประชุม FED คาดปรับขึ้นดอกเบี้ย 14 มิ.ย. ประชุม ECB อาจส่งสัญญาณลดวงเงิน QE

ภาวะตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นสหรัฐปิดพุ่งขึ้น ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นส่งผลบวกกับหุ้นกลุ่มน้ำมัน ส่วนปัจจัยบวกในประเทศเป็นเรื่องร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2562 ที่ยังคงเป็นงบประมาณแบบขาดดุลสนับสนุนการเติบโตของศก.ประเทศ  โดยมีปัจจัยกดดันจาก fund flow ไหลออก ดัชนีอาจบวกได้ไม่มากเนื่องจากเข้าสู่ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์และตลาดรอฟังผลการประชุม FED คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,725-1,744 จุด

กลยุทธ์การลงทุน   เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- PSL ดัชนีค่าระวางเรือปรับตัวขึ้น +34% ใน 6 วันที่ผ่านมาสู่ระดับ 1,395 จุด

- GOLD GULF MBK THG  หุ้นเข้าคำนวณ FTSE SET Mid Cap Index มีผล 18 มิ.ย.

- UVAN เก็งครม.ออกมาตรการช่วยเหลือการส่งออกน้ำมันปาล์ม

- GGC EA เดือนก.ค.รัฐปรับเพิ่มสัดส่วนการใช้ไบโอดีเซลจาก B7 เป็น B20 

- หุ้นที่ Laggard ดัชนี CPF CK STEC UNIQ

- JUBILE ATP30 AGE XO SSP TPCH หุ้น MAI ที่คาดว่ากำไรปี 61 เติบโต

- BANPU ราคาถ่านหินทรงตัวในระดับสูง 114.1$/Ton

หุ้นแนะนำพิเศษ

AGE (ราคาปิด 1.55 บาท ซื้อ ราคาเหมาะสม 1.72 บาท)

  • ผู้บริหารเปิดเผยว่า 2Q61 มีภาพรวมที่เติบโตโดดเด่นขึ้นสอดรับราคาถ่านหินยืนเหนือระดับ 100 USD/Ton และมีความต้องการใช้ถ่านหิน ทั้งในและต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยงวด 2Q61 – 3Q61 มียอดขายถ่านหินที่จะทยอยส่งมอบในประเทศแล้วจำนวน 8 แสนตัน ส่วนต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเวียดนาม (มีการนำเข้าถ่านหินสูงรอบ 8 เดือน เม.ย. 61 ที่ 25 ล้านตัน) ยังคาดว่าปีนี้สามารถทำยอดขายได้ประมาณ 3 แสนตัน และประเทศกัมพูชา อีกประมาณ 3 หมื่นตัน ด้านกองเรือโป๊ะ ปัจจุบันมีอยู่ที่ 12 ลำ ยังไม่เพียงพอความต้องการจึงได้เตรียมสั่งต่อเรืออีก 12 ลำ ส่งมอบปลายปี 61 ถึง ต้นปี 62 คาดรายได้ปี 61 ทำได้ตามเป้า +20 – 25%YoY ด้วยยอดขายถ่านหิน 3 ล้านตัน (80% ในประเทศ 20% ต่างประเทศ) (ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์)
  • ความเห็น ยอดจำหน่ายในงวด 1Q61 กว่า 3 แสนตัน ส่วนใหญ่มาจากในประเทศเป็นหลัก ยังเชื่อว่าช่วงที่เหลือของปี ออเดอร์จากเวียดนามจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง QoQ จากฐานต่ำจนถึงสิ้นปี และด้วย Backlog ออเดอร์ในประเทศที่สูงกว่า 8 แสนตัน ส่งมอบ 2Q61 (ปลายไตรมาส) จนถึง 3Q61 ส่วนหนึ่งแม้ว่าอาจเป็นคำสั่งซื้อแบบบิ๊กล็อตที่มีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำ แต่เชื่อว่าจะเป็นส่วนเพิ่มให้ปริมาณจำหน่ายได้ตามเป้าหมายที่ 3 ล้านตัน ไม่ยากเย็น พร้อมทั้งสมมติฐานของฝ่ายวิจัยได้รวมอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดต่ำลงไปแล้ว โดยรวมจึงยังคาดว่ากำไรปี 61 จะเติบโต 53.3%YoY คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 1.72 บาท

SORKON : Analyst Meeting (ราคาปิด 72 บาท)

  • ผู้ผลิตและจำหน่าย เนื้อหมูแปรรูป (55%) อาหารทะเลแปรรูป (34%) ร้านอาหาร (Zapp Classic, ข้าวขาหมูยูนนาน) (5%) และฟาร์มหมู (6%) จำหน่ายผ่าน 2 ช่องทาง คือ 1) Modern Trade (MT) สัดส่วน 58% และ Traditional Trade (TT) สัดส่วน 26% งวด 1Q61 มีรายได้ 47 ลบ. +5.22%YoY -3.05%QoQ กำไรสุทธิ 50.9 ลบ. เติบโต 72.9%YoY +53.2%QoQ  จากการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและได้ประโยชน์ราคาเนื้อหมูอ่อนตัวต่อ 6%YoY หนุน GPM ขึ้นจาก 29.01% ใน 1Q60 เป็น 32.24% ใน1Q61
  • จากนี้ บริษัทจะเพิ่มสัดส่วน TT (มี GPM มากกว่า MT) จากการเน้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่ใหญ่กว่าตลาดปัจจุบันของบริษัท รวมกัน 3 ภูมิภาค คือ ตะวันออก กลาง และตะวันตก ส่วนการจำหน่ายผ่าน MT บริษัทยังมีการทำ R&D สำหรับสินค้าเดิมอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความแตกต่าง ซึ่งมีแผนที่จะปรับปรุงไตรมาสละ 1 SKU ไปล่วงหน้าแล้ว 2 ปี ด้านร้านอาหาร ภายหลังจากการปิดสาขาที่ไม่คุ้มทุน และพยายามเข้าหาลูกค้ามากขึ้นผ่านการจำหน่ายทาง Online Delivery โดยรวมผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี 66 ที่ 5 พันล้านบาท
  • ความเห็น ระยะสั้นราคาเนื้อหมูเพิ่มขึ้นราว 14%QoQ น่าจะกระทบจำกัด จากฟาร์มเลี้ยงหมูเป็นของตนเองกว่า 40% ของจำนวนเนื้อหมู และการปรับปรุงสินค้าเดิมล่าสุดคือ “หมูยอโบราณ” ต่อจาก “แหนมตุ้มจิ๋ว” (ปรับปรุงเมื่อปลายปี 60) ซึ่งสร้างยอดขายเติบโตหลังปรับปรุงกว่า 30% (ม.ค. – เม.ย. 61) จึงคาดกำไรงวด 2Q61 จะยังเติบโต YoY ราคาปัจจุบัน ซื้อขายที่ P/E 75 ต่ำกว่า P/E อุตฯที่ 20.71 Div. Yield ราว 3% จึงแนะนำติดตามการเพิ่มช่องทาง TT ที่เป็นโอกาสครั้งสำคัญก่อนตัดสินใจ “ทยอยซื้อสะสม” ลงทุนระยะยาว

 

หุ้นมีข่าว   

SKE Analyst Meeting (ราคาปิด 1.38)

·        โครงการใหม่ที่จะช่วยเพิ่มรายได้ในอนาคตได้แก่ 1) การเข้าลงทุนในธุรกิจผลิตและจำหน่ายก๊าซไบโอมีเทนอัด (CBG) กำลังการผลิตกว่า 3 ล้านก.ก./ปี โดยจะใช้ก๊าซชีวภาพจากน้ำเสียของโรงงานแป้งมันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบ คาดจะแล้วเสร็จและรับรู้รายได้ราว 3Q61 2) ธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวลแม่กระทิงที่จ.แพร่ กำลังผลิตไฟฟ้า 9.9 เมกะวัตต์ และมีสัญญาขายไฟ 8 เมกะวัตต์ กับกฟภ. อัตราเฉลี่ย 4.62 บาท/หน่วยตลอดอายุสัญญา 20 ปี คาดจะแล้วเสร็จราว 3Q62

·        1Q61 มีกำไร 18 ลบ. -24%YoY แม้รายได้รวมทรงตัวที่ 84 ลบ. แต่อัตรากำไรขั้นต้นลดเหลือ 38.5% จาก 40% และสัดส่วนคชจ.ในการบริหารต่อรายได้รวมเพิ่มขึ้นสู่ 21% จาก 15% เนื่องจากมีค่าที่ปรึกษาโครงการเพิ่มขึ้น  ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิลดเหลือ 21% จาก 28%  กำไร 2Q61 มีแนวโน้มดีขึ้นเมื่อเทียบ yoy จากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นและมีโอกาสทำ new high แต่น่าจะลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้วเนื่องจากเป็นช่วง low season ที่มีวันหยุดยาว กำไร 2H61 มีแนวโน้มดีกว่า 1H61 จากธุรกิจ CBG ที่เริ่มรับรู้รายได้ใน Q3 ทั้งนี้ กำไรปีนี้อาจมี Upside ที่เป็นกำไรจากการขายที่ดินขนาด 101 ไร่ที่จ.สงขลาที่มีผู้เจรจาขอซื้อแต่ปัจจุบันยังไม่ได้ข้อสรุป

·        ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อโครงการใหม่ที่จะช่วยหนุนรายได้ในอนาคตมีศักยภาพเติบโต และอัตราส่วน D/E ปัจจุบันยังต่ำเพียง 0.17 เท่า  ราคาปัจจุบันแม้ลดลง 16%YTD แต่ซื้อขายที่ PER 18.5 เท่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 13 เท่า แนะนำ ทยอยซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว

·        Banking Sector Update : ธปท.ยืนยันให้ผู้ประกอบการ SME ใช้บัญชีฉบับเดียวกับที่ยื่นกรมสรรพากรในการยื่นขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินตามกำหนดเดิมในวันที่ 1 ม.ค. 2562 ส่วนการเลื่อนบังคับใช้มาตรฐานบัญชี IFRS9 ตามที่กกร.เสนอยังไม่ได้ข้อสรุปต้องรอผลการประชุมของคณะกรรมการกำกับดูแลการประกอบวิชาชีพบัญชี (กกบ.) ในวันที่ 20 มิ.ย.นี้

·        ความเห็น การกำหนดให้ผู้ประกอบการ SME ใช้บัญชีเดียวยื่นกู้เงินถือเป็นเรื่องดีต่อผู้ให้กู้ที่จะได้เห็นสถานะการเงินที่แท้จริงสะท้อนคุณภาพหนี้ที่แท้จริงได้ดี  ส่วนเรื่องมาตรฐานบัญชี IFRS9 หากเลื่อนบังคับใช้ก็จะส่งผลดีกับกลุ่มแบงก์ที่ผลการดำเนินงานจะไม่ถูกกดดันจากคชจ.สำรองหนี้สูญที่จะเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดีต้องรอฟังผลการพิจารณาก่อน

·        + PSL : ดัชนี BDI มีการปรับตัวขึ้นแรงต่อเนื่องเป็นวันทำการที่ 6 กว่า 4.1% รวมกันสูงถึง 33.8% มาอยู่ที่ 1,395 จุด หลังจากที่ประเทศจีนมีแผนที่จะนำเข้าถ่านหินจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะในพื้นที่แถบรัฐเวอร์จิเนียตะวันตก เพื่อเป็นการลดภาวะการขาดดุลทางการค้าซึ่งตั้งเป้าว่าจะลดกว่า 3.75 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการนำเข้าสินค้าทางการเกษตรและพลังงาน และล่าสุด กระทรวงพาณิชย์จีนยังได้มีการกำชับให้โรงงานผลิตเหล็กรายใหญ่ 2 แห่ง  ต้องนำเข้าถ่านหินเพื่อการหลอมเหล็กไม่น้อยกว่าปี 60 ทั้งนี้ ภาพรวมปีก่อนจีนมีการนำเข้าถ่านหินจากสหรัฐฯเพียง 3.2 ล้านตัน เทียบกับนำเข้าจากอินโดนีเซีย (อันดับ 1) กว่า 108.9 ล้านตัน สะท้อนโอกาสในการเพิ่มขึ้นจากฐานต่ำอีกมาก ขณะที่ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน จีนนำเข้าถ่านหินจากสหรัฐฯไปกว่า 1.48 ล้านตัน ซึ่งส่วนใหญ่กว่า 59% เป็นถ่านหิน “Buchanan” ที่มีมลพิษต่ำ

·        ความเห็น การปรับตัวขึ้นของดัชนี BDI ดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากที่มีการปรับตัวลดลงต่อเนื่องติดต่อกันถึงกว่า 11 วันทำการรวม 30.6% ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนจากผู้นำเข้ารายใหญ่สุดของโลก อย่างเช่นจีนในเชิงนโยบาย ขณะที่ประเภทถ่านหินของสหรัฐฯยังสอดคล้องกับการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมของจีนอีกเช่นเดียวกัน โดยรวมสะท้อนโอกาสให้ดัชนี BDI มีการฟื้นต่อจากปัจจุบันที่ใกล้ New high ในรอบ 1 เดือน จึงแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” PSL โดย Bloomberg Consensus ประเมินราคาเหมาะสมอยู่ที่ 15.24 บาท

·        + BEM ตอบสนองรัฐคงอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินระดับเดิมอีก 3 เดือน ตั้งแต่ 3 ก.ค.-2 ต.ค.61 (เริ่มใช้อัตราค่าโดยสารใหม่ 3 ต.ค.)

·        + กลุ่มทีวีดิจิตอล กสทช.อนุมัติพักหนี้ทีวีดิจิทัล 20 ช่อง พร้อมยืนยันสปริงส์นิวส์ไม่จอดำ เร่งหา MUX รายใหม่

·        +/- ABM เผยยกเลิกตั้งบ.ร่วมทุนผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลอัดแท่งกับ FANCY แต่ยันยังสนใจมุ่งขยายธุรกิจต้นน้ำ (SET news)

·        + ITEL ได้รับเลือกเป็นผู้ให้บริการศูนย์รับฝากข้อมูลให้กับธนาคารเอกชนแห่งหนึ่ง สัญญา 5 ปี มูลค่ากว่า 140 ลบ. คาดเริ่มให้ดำเนินการ Q3/61

·        + TFG เฮ! ได้รับการรับรองสุกรปลอดยาปฏิชีวนะจากสถาบัน NSF ประกาศการรับรอง 7 มิ.ย. 2561 พร้อมเดินหน้าผลิตสินค้าใหม่ได้มาตรฐานในช่วงครึ่งปีหลัง (ที่มา ข่าวหุ้น)