ศธ.สอบอาหารกลางวัน 'บ้านท่าใหม่' พบมีมูลให้ออกจากราชการไว้ก่อน

หลังปรากฎข้อมูลว่าในโซเชียลมีเดียกรณีโรงเรียนบ้านท่าใหม่ ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ให้นักเรียนรับประทาน ขนมจีนกับน้ำปลาเป็นอาหารกลางวัน มีการเรียกร้องให้ตรวจสอบและได้มีการสั่งย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนไปปฏิบัติราชการชั่วคราวที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) สุราษฎร์ธานี เขต 2 และตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงลงไปตรวจสอบ โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้เร่งสอบสวน และคาดโทษไปแล้ว และหากพบที่ใดก็ขึ้นอีกก็จะต้องลงโทษทุกที่

วันนี้ (7 มิ.ย.) พล.ท.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ ที่อยู่ระหว่างไปราชการต่างประเทศได้มอบหมายให้ตัวเองและคณะทำงานลงไปดูแลเรื่องการโกงเงินค่าอาหารกลางวันเด็ก ซึ่งได้หารือกับนายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัด ศธ.และนายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน( กพฐ.) โดยจะมอบให้ศึกษานิเทศก์ไปสุ่มตรวจสอบและมอบหมายผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทั่วประเทศ ลงไปกำกับดูแลโครงการอาหารกลาง ขณะเดียวกัน ตัวเองและทีมงานจะลงพื้นที่สุ่มตรวจสอบเช่นกันในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ แต่จะวันที่ 8 มิ.ย.นี้จะเริ่มจุดแรกที่ โรงเรียนบ้านท่าใหม่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ที่มีกรณีให้นักเรียนกินขนมจีนคลุกน้ำปลา จากข้อมูลพบว่าเป็นเรื่องจริง มีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงแล้ว คาดว่าจะสรุปผลสืบสวนฯได้ในวันที่ 8 มิ.ย.นี้

“จากข้อมูลพบว่าเรื่องอาหารกลางวันเด็กมีปัญหามานาน โดยผอ.โรงเรียนใช้อำนาจ เบิกเงินจากฝ่ายการเงินของโรงเรียนมาถือไว้เองคนเดียว และซื้อวัตถุดิบมาให้แม่ครัวด้วยตนเอง ซึ่งประเด็นเหล่านี้ไม่น่าเกิดขึ้น ทั้งที่ถูกต้องควรมีกรรมการตรวจสอบตามลำดับชั้น เพราะฉะนั้น ถ้าผลการสืบสวนฯ พบว่ามีมูลการทุจริตจริงจะขอให้ทางศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ใช้มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบในระบบราชการ ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สั่งให้ผอ.โรงเรียนบ้านท่าใหม่ ออกจากราชการไว้ก่อน และเสนอให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงต่อไป ซึ่งกรณีอาหารกลางคาดว่ามีหลายโรงเรียนที่มีปัญหาถ้าพบทุจริตก็จะใช้มาตรการเดียวกัน รวมทั้งจะเสนอให้มีการจัดทำรายการเมนูประจำสัปดาห์ประกาศให้ชัดเพื่อง่ายต่อการตรวจสอบ” พล.ท.โกศล กล่าว

ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ที่โรงเรียนบ้านท่าใหม่ยังมีประเด็นที่ไม่ชอบมาพากลอื่นๆ ด้วย เช่น ปี 2560 ได้รับงบปรับปรุงระบบไฟฟ้า จำนวน 380,200 บาท ต้องดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างเสาไฟ 8 ต้นๆละ 1,486 บาทรวมค่าแรง 500 บาทถึงเวลาจริงติดตั้ง 6 ต้นหายไป 2 ต้น ในปีเดียวกัน มีการทำถนนคอนกรีตภายในโรงเรียนระยะทาง 100 เมตร ใช้เงินอุดหนุนรายหัวนักเรียนจำนวน 100,000 บาท ในการดำเนินการ แต่ปรากฏว่าเบิกเงินทั้งหมด 4 รายการ ประกอบด้วย เงินอุดหนุนรายหัว 100,000 บาท เงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน เงินอุดหนุนรายหัวเบิกเพิ่มเติม 21,500 บาท เงินรายได้สถานศึกษาที่ได้จากการทอดผ้าป่า 60,000 บาท และเงินรายได้อื่น ๆ ของสถานศึกษา อีก 23,866 บาทรวมทั้งหมด ที่อ้างว่าใช้ในการทำถนนคอนกรีต จำนวน 205,366 บาท เบื้องต้น คณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงฯลงไปตรวจสอบเอกสาร ยังพบว่า ไม่มีการทำระบบจัดซื้อจัดจ้างอย่างถูกต้อง ผอ.โรงเรียนคนดังกล่าว จ้างทำเอกสารส่วนตัว พบว่ามีใบเสร็จดำเนินการดังกล่าวเพียง 3 ใบ รวม 73,335 บาท ดังนั้น ตั้งข้อสังเกตว่าน่าจะมีการทุจริต